ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งปิดเหนือ 32,000 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลดลงเหลือกว่า 96 ดอลลาร์

205
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พุ่งปิดเหนือ 32,000 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลดลงเหลือกว่า 96 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,033 จุด +194 จุด หรือ +0.61% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,807 จุด -23 จุด หรือ -0.61% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,792 จุด -178 จุด หรือ -1.63%

สาเหตุจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่ทยอยประกาศออกมา ได้แก่ อัลฟาเบธ โดยยูทูปมีรายได้โฆษณาลดลงสวนความคาดหมาย ไมโครซอฟท์มีผลประกอบการลดลงเช่นกัน อาจส่งผลให้นักลงทุนทบทวนการลงทุนในคืนวันนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 88.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 96.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.4% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ กล่าวว่าทั่วโลกเผชิญครึ่งทางของภาวะวิกฤตพลังงานโลกอย่างแท้จริง ตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบของจีนแผ่นดินใหญ่ในเดือนกันยายนลดลง 2% จากช่วงเดียวกันในปีผ่านมา

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,665.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -3.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008