ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.2562 ลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 9

761
0
Share:

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย.2562 อยู่ที่ 69.1 ลดลงจากเดือน ต.ค. 62 ที่อยู่ในระดับ 70.7 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ต่ำสุดในรอบ 67 เดือน เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ
.
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดือน พ.ย.อยู่ที่ 56.4 ลดลงจากเดือน ต.ค.62 ที่อยู่ในระดับ 57.9 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำเท่ากับ 65.4 ลดลงจาก 67.0 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตเท่ากับ 85.6 ลดลงจาก 87.3 เช่นกัน
.
โดยมีปัจจัยลบจากการที่สภาพัฒน์ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของไทยปี 2562 เหลือ 2.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3% ถือเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี // ตัวเลขการส่งออกในเดือนต.ค. ลดลง 4.54% // ราคาพืชผลเกษตรยังทรงตัวในระดับต่ำ // ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น // ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้าและผู้บริโภค ยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกระจุกตัว
.
โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนพ.ย.62 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวช้า ทำให้กำลังซื้อของประชาชนยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมากนัก
.
ประกอบกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน, การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป และการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง ได้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว
.
พร้อมมองว่า ต้องติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงต้นปีหน้า จากเม็ดเงินของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่จะเริ่มขับเคลื่อนลงสู่ระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เชื่อว่าจะเห็นภาพความชัดเจนได้มากขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งกรณีสงครามการค้า และกรณี Brexit โดยเมื่อปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีความชัดเจนมากขึ้น ก็จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ฟื้นกลับขึ้นมาได้ แต่หากภายในเดือนก.พ.ปีหน้า ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว ก็มีความเป็นไปได้ที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะยังปรับลดลงต่อเนื่อง และจะกลายเป็นความเสี่ยงที่รุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งอาจมีผลทำให้ GDP ปีหน้าเติบโตได้ต่ำกว่า 2.5%