ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าไทย ธ.ค. 63 ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน พร้อมหั่นจีดีพี ปี 64 เหลือ 2.2% จากเดิม 2.8%

716
0
Share:

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนธ.ค. 2563 ว่า จากการสำรวจหอการค้าภูมิภาค และหอการค้ากรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 369 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23-30 ธันวาคม 2563 พบว่า
.
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ลดลงจากระดับ 33.7 มาอยู่ที่ 31.8 ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563 เนื่องจากตัวชี้วัดทุกด้าน อาทิ ภาคบริการ ภาคการเกษตร และและการจ้างงาน มีการปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค ส่วนดัชนีฯในปัจจุบัน ลดลงมาอยู่ที่ 23.7 จากเดือนพ.ย. อยู่ที่ 25.6 และดัชนีฯ ในอนาคต ลดลงมาอยู่ที่ 39.9 จากเดือนพ.ย. อยู่ที่ 41.7 ส่วนความเชื่อมั่นอีก 6 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะโตไม่ถึง 50 หรืออยู่ในระดับที่มีความเชื่อมั่นต่ำ เนื่องจากภาคธุรกิจยังไม่มีความเชื่อมั่นจากสถานการณ์ในปัจจุบัน
.
สำหรับปัจจัยลบ อาทิ ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ที่มีการระบาดเป็นวงกว้างและรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอีกครั้ง, การยกเลิกการจัดงานปีใหม่ในหลายพื้นที่กระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม, ความกังวลเกี่ยวกับการล็อกดาวน์อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจประสบปัญหา และค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากระดับ 30.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563
.
ด้านปัจจัยบวก ได้แก่คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และให้เน้นมาตรการช่วยเหลือที่ตรงจุดมากขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น และมาตรการของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2563 และต้นปี 2564 ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้ปรับตัวดีขึ้น
.
โดยเป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยหลังจากนี้ 3 เดือน หากการดูแลควบคุมการระบาดของโควิด-19 ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม หรือควบคุมให้เกิดการระบาดอยู่ในวงที่จำกัดได้ อาจมีผลกระทบต่อการจ้างงานหรือการปลดคนงาน ซึ่งขณะนี้ อัตราการว่างงานอยู่ที่ประมาณ 2% หากมีตัวเลขการว่างงานเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลกระทบทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ยังไม่สามารถลงทุนได้อย่างเต็มที่ และคาดว่าตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี ปี 2564 อาจขยายตัวได้เพียง 2.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8% จากหลายปัจจัยที่ยังไม่สามารถควบคุมได้