ดัชนี MPI เดือน ต.ค.63 เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.2563 อยู่ที่ระดับ 95.72 ลดลง -0.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือน ก.ย.2563 ที่หดตัว – 2.15% ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง -10.33%
.
ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน ต.ค.2563 อยู่ที่ 63.2% ลดลงเล็กน้อยจาก 63.46% ในเดือน ก.ย.2563 ส่งผลให้ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 60.44%
.
โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลต่อดัชนีฯ ในเดือน ต.ค.2563 มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของการกลั่นปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 8.45%, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 6.07% และการแปรรูปผัก ผลไม้ เพิ่มขึ้น 19.98% ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ปรับตัวลดลง -3.32%, เครื่องแต่งกาย ลดลง -17.21% และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่เย็นหรือแช่แข็ง ลดลง -14.14%
.
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตในเดือน พ.ย.2563 ได้แก่
.
1.มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการช้อปดีมีคืน
.
2.ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือน ต.ค.2563 ขยายตัว 12.42% ส่งผลให้รายได้เกษตรกรขยายตัว 12.2%
.
3.การนำเข้าสินค้าวัถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ในเดือน ต.ค.2563 หดตัวลดลงเหลือเลขหลักเดียว สะท้อนถึงสัญญาณที่ดีต่อการผลิตในระยะต่อไป
.
ดังนั้น สศอ.จึงคาดว่า MPI จะพลิกกลับเป็นบวกในเดือน พ.ย.2563 ราว 0-2% และในเดือน ธ.ค.2563 จะเป็นบวกราว 2-4%
.
ทั้งนี้ สศอ.คาดการณ์ว่า MPI ในปี 2563 จะหดตัว -8.0% และผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภาคอุตสาหกรรมจะหดตัว -7.0% ภายใต้สมมุติฐานอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30-35 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 35-45 ดอลลาร์/บาร์เรล
.
ขณะที่ MPI ในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัว 4-5 % และ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัว 4-5% ภายใต้สมมุติฐานอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 29-32 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 40-50 ดอลลาร์/บาร์เรล