ดันหุ้นต่อ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 84 ดอลลาร์

196
0
Share:
ดันหุ้นต่อ! ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 84 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,189 จุด +216 จุด หรือ +0.64% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,983 จุด +13 จุด หรือ +0.34% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,001 จุด +69 จุด หรือ +0.64%

สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2022 ของสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้พอดี และยังเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อจากเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 7.1% นักลงทุนจึงมีความมั่นใจขึ้นมาว่า สัญญาณการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเพียง 0.25% ขณะที่ ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ที่ระหว่าง 4.25%-4.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.3% ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 6 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน ทำให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ตุลาคม 2022

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ทำให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ธันวาคม 2022

ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับราคาน้ำมันดิบปิดตลาดในคืนผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2022 ผ่านมา

สาเหตุจากอัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคม ปี 2022 ของสหรัฐอเมริกาลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น สะท้อนภาวะเงินเฟ้อสหรัฐผ่อนคลายต่อเนื่อง ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเงินยูโรดำดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือนหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐลดลง ซึ่งอาจลดแรงกดดันของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ การเปิดประเทศของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะกลับมามีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางการจับตาประเมินความรุนแรงของการระบาดของโรคโควิด-19 ของจีนที่จะมีต่อต่างประเทศหรือไม่

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,898.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +19.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +1.1% ขณะที่มนช่วงระหว่างวันการซื้อขาย พบว่าราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot พุ่งสูงถึง 1,901.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นราคาทองคำใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่ปี 13 มิถุนายน 2565

ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าถึง 0.8% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 เดือน หรือตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนปี 2022 ผ่านมา ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี 10 ปี และ 30 ปี ลดลงเช่นกัน หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาเดือนธันวาคมลดต่ำลงตามที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟดฟันด์ พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มสูงถึง 90% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 0.25% ในการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 31 มกราคมถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้