ดาวโจนส์ปิดขึ้นเกือบ 50 จุด น้ำมันดิบร่วงปิดยืนเหนือ 113 ดอลลาร์

300
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,928 จุด +48 จุด หรือ +0.15% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,941 จุด -32 จุด หรือ -0.81% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,264 จุด -270 จุด หรือ -2.35%

สาเหตุจากนักลงทุนหวนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง หลังจากผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง สแน็บ แพลทฟอร์มสื่อโซเชียลดังในสหรัฐอเมริกาตกต่ำกว่าที่คาดไว้มาก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงประเมินสถานการณ์การลงทุนท่ามกลางปัจจัยลบของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดภาวะถดถอย

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 113.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากทางการท้องถิ่นในนครเซี่ยงไฮ้เตรียมจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของเมืองดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 หลังจากสถานการณ์ระบาดเริ่มดีขึ้นบ้าง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,865.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +13.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นทรงตัวระดับ 3% ซึ่งเคยเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้