ดาวโจนส์ปิดดิ่งหนักกว่า 500 จุด น้ำมันดิบพุ่งทะยานเหนือ 87 ดอลลาร์

329
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,368 จุด -543 จุด หรือ -1.51% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,571 จุด -85 จุด หรือ -1.84% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,506 จุด -386 จุด หรือ -2.60%

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น 2 ปี และ 10 ปี ทำสถิติพุ่งแตะสูงสุดที่ระดับกว่า 1% และ 1.87% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะเกิดโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหุ้นทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นขึ้นกับกลุ่มสถาบันการเงิน ปรากฎว่า ธนาคารส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ย่ำแย่ลง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารอย่างหนาตา โดยคืนที่ผ่านมา หุ้นธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ถูกเทขายร่วงหนักกว่า 7%

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +1.9% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 87.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.2% ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งปิดทำสถิติที่สูงสุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 เป็นต้นมา

สาเหตุจากสถานการณ์รุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรปฝั่งตะวันออก โดยกลุ่มนักรบฮูติในประเทศเยเมน เปิดเผยว่า ได้ใช้ปฏิบัติการอากาษยานไร้คนขับ หรือโดรน เข้าโจมตีประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ หรือยูเออี ซึ่งประเทศยูเออีเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณรอบนอกของกรุงอาบู ดาบี พบผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 3 ราย

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวจากกำลังการผลิต แม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปก็ตาม และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศในยูเครนกับรัสเซียที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า รัสเซียเตรียมใช้กำลังทหารเข้าโจมตีประเทศยูเครนภายใน 30 วันข้างหน้านึ้ หากการเจรจาทางการทูตล้มเหลว โดยความตึงเครียดของทั้ง 2 ประเทศสะสมมาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,813.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -3.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2% สาเหตุจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 2 ปี และ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ในรอบ 2 ปีผ่านมา ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ขยับแข็งค่าขึ้น 0.4%