ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 400 จุด น้ำมันดิบปิดพุ่งแรงเหนือ 105 ดอลลาร์

354
0
Share:
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,480 จุด +417 จุด หรือ +1.23% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,411 จุด +53 จุด หรือ +1.23% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 13,614 จุด +178 จุด หรือ +1.33%
.
สาเหตุจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ตามคาดหมาย นับเป็นการสิ้นสุดภาวะดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำเป็นประวัติการณ์ในกว่า 2 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2018 นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอีก 6 ครั้ง นักลงทุนจึงมีความมั่นใจในแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังการเจรจาครั้งล่าสุดยังคงล้มเหลวต่อเนื่อง
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 101.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +6.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +7.2% ก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านไป มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 105.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +7.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +7.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA เปิดเผยรายงานพลังงานโลกประจำสัปดาห์ พบว่า ทั่วโลกจะเผชิญวิกฤตปริมาณน้ำมันดิบตลาดโลกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ สาเหตุจากรัสเซียจะพบปัญหาในการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นผลจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติทั่วโลกที่ตอบโต้ต่อการการทำสงครามของรัสเซียในประเทศยูเครน
.
IEA เปิดเผยต่อไปว่า การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียจะเจอกับภาวะสะดุดครั้งใหญ่ ทำให้กลายเป็นปัจจัยคุกคามที่จะทำให้เกิดภาวะช็อคของแหล่งผลิตน้ำมันของโลก หรือ Global Oil Supply Shock ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายสิบปีผ่านมา นั่นหมายความว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการที่รัสเซียต้องสูญเสียการผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกจะเป็นสิ่งที่ประเมินผลกระทบต่ำกว่าความเป็นจริงไม่ได้
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,943.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +34.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.8% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่า รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี กลับลดลง หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตรุนแรงของรัสเซียกับยูเครน หลังจากการเจรจาต่อรองของรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ แทบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด