ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 700 จุด

เมื่อวันที่ 17 เมษายน(ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 24,242 จุด +704 จุด หรือ +2.99% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,874 จุด +75 จุด หรือ +2.68% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 8,650 จุด +117 จุด หรือ +1.38% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเหนือ 24,000 จุดอีกครั้ง นับตั้งแต่ 10 มีนาคม สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้น 2.2%, 3.0% และ 6.1% ตามลำดับ นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นอย่างคึกคัก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ทะยานขึ้นถึงคืนที่ผ่านมา 33.1% และ 30% ตามลำดับ
.
สาเหตุจากนักลงทุนตั้งความหวังกับรายงานข่าวว่า จิลลีด (Gilead) บริษัทผลิตเวชภัณฑ์ชื่อดังของสหรัฐในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ได้ทดสอบการใช้ยาที่ผลิตขึ้นมามีชื่อว่า เรมดีซิเวอร์ (Remdisivir) ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ปรากฎว่าได้ผลที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการฟื้นตัวจากอาการป่วยโรคโควิด-19 และระบบการหายใจดีขึ้น
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 25.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 28.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.44 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทำสถิติร่วงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ต่อเนื่อง สาเหตุจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ที่ย่ำแย่หนักสุดในรอบ 28 ปี สะท้อนภาวะการใช้น้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อเรื่องท่ามกลางความหวังในการเปิดภาคเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ที่ยังต้องใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ราคาทองคำนิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,704.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -46.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยแผนการเปิดภาคเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงรายงานข่าวการทดลองใช้ยาที่มีชื่อว่าเรมดีซิเวอร์ (Remdisivir) รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีสัญญาณในทางบวก