ดาวโจนส์ปิดพุ่งสูงเกือบ 200 จุด ราคา ทองคำปิดดิ่งเหวหนักกว่า 22 ดอลลาร์ ฉุดหลุด 1,790 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,813 จุด +194 จุด หรือ +0.55% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,690 จุด +7 จุด หรือ +0.17% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,775 จุด -79 จุด หรือ -0.50%
สาเหตุจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเกือบทั้งหมด หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พุ่งทะยานสูงขึ้นแตะ 1.62% ท่ามกลางการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาสัปดาห์นี้จะเงียบเหงาในช่วงวันพฤหัสบดีที่ปิดทำการ 1 วัน และเปิดซื้อขายในวันศุกร์นี้เพียงครึ่งวัน จากเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า หรือ Thanksgiving Holiday ที่จะเริ่มต้นในวันพฤหัสบดีนี้
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.5% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.2%
สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ประกาศปล่อยน้ำมันดิบสำรองเชิงยุทธศาสตร์จำนวน 50 ล้านบาร์เรลเข้าสู่ตลาด รวมถึงญี่ปุ่น อินเดีย จีน และสหรัฐอเมริกา ที่จะประกาศปล่อยน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดน้ำมันดิบโลก อย่างไรก็ตาม กลุ่มโอเปกพลัสไม่เห็นด้วย และเตือนว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ในตลาดน้ำมันดิบโลกเพื่อไม่ให้เกิดภาวะกลไกตลาดน้ำมันดิบผิดเพี้ยน นอกจากนี้ สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในยุโรปที่กลับมารุนแรงครั้งใหม่ ทำให้หลายประเทศในยุโรปตัดสินใจใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจให้เกิดการสะดุดหยุดลง
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,783.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -22.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.3% ทำสถิติราคาทองคำค่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 16 เดือน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พุ่งทะยานสูงขึ้นแตะ 1.62% ท่ามกลางปัจจัยตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปในสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงในรอบกว่า 30 ปี กดดันธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น
