ดาวโจนส์ปิดร่วงหนักกว่า 100 จุด น้ำมันดิบทรงตัวกว่ากว่า 107 ดอลลาร์

306
0
Share:

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,730 จุด -103 จุด หรือ -0.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,930 จุด -5 จุด หรือ -0.13% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,370 จุด +6 จุด หรือ +0.06% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 กลับมาปิดหลุด 4,000 จุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ในสัปดาห์นี้ ที่สำคัญ ดัชนีดังกล่าวดำดิ่งรุนแรงถึง -18% จากสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ และ -17% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ในขณะที่ดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market เนื่องจากร่วงลงเหวถึง -29% จากสถิติสูงสุดระหว่างวันมากเป็นประวัติการณ์ผ่านมา
.
สาเหตุจากนักลงทุนหวั่นวิกฤตมากขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกาที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 8.2% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในแง่เฉลี่ย 1 ปี ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดที่ 8.5% ในรอบ 40 ปีต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต่อไป
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 106.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.4% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากปริมาณก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่ส่งผ่านประเทศยูเครนเข้าไปสู่ยุโรปลดลงอย่างชัดเจนถึง 25% จากก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ กลุ่มสหภาพยุโรปสามารถโน้มน้าวประเทศฮังการีให้เร่งลดการพึ่งพาน้ำมันดิบจากรัสเซีย
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,823 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -29.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.7% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำสถิติระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นกลับพุ่งสูงขึ้นแตะ 3% สูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้