ดาวโจนส์ปิดลงเหวกว่า 550 จุด น้ำมันดิบปิดดิ่งหลุด 108 ดอลลาร์

364
0
Share:
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,678 จุด -550 จุด หรือ -1.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,530 จุด -72 จุด หรือ -1.57% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 14,220 จุด -221 จุด หรือ -1.54% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทำสถิติดัชนีหุ้นรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่มีนาคม 2020 เป็นต้นมา โดยดำดิ่งหนัก -4.6%, -4.9% และกว่า -9% ตามลำดับ
.
สาเหตุจากนักลงทุนไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นมาสูงกว่าอายุ 10 ปี นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2019 ที่เกิดอัตราผลตอบแทนระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 2019 จากนั้นก็เกิดการล็อกดาวน์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2020 จากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง สำหรับโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงในสหรัฐอเมริกา ในขณะนี้ พบว่า มี 66% จะเกิดขึ้นในปีนี้ และ 98% จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีหน้า
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 100.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -7.54 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -6.99% ก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 2 สัปดาห์ผ่านมา มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 107.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -5.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.88% ก่อนหน้านี้ เมื่อกว่า 2 สัปดาห์ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศปล่อยน้ำมันดิบ 180 ล้านบาร์เรลใน 6 เดือนติดต่อกัน หรือเฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เข้าสู่ตลาดโลก ทำสถิติปริมาณน้ำมันดิบจากคลังสำรองดังกล่าวเข้าสู่ตลาดมากที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตราคาน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปมีราคาแพง ท่ามกลางกลุ่มโอเปกพลัสมีมติทยอยเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 432,000 บาร์เรลต่อวัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นมติเดิมของกลุ่มโอเปกพลัส โดยยืนยันว่า มติกลุ่มโอเปกพลัสไม่ขึ้นกับสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงในภูมิภาคยุโรประหว่างรัสเซียกับยูเครน
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,945.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ส่งผลให้ทำสถิติราคาทองคำตลาดโลกรายไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เป็นต้นมา ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครนยังคงตกอยู่ในความไม่แน่นอนสูง และไม่มีความชัดเจนในผลการเจรจาสันติภาพแต่อย่างใด นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าในคืนผ่านมา รวมถึงความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีสัญญาณการผ่อนคลายลงแต่อย่างใด