ดิสนีย์แลนด์สั่งปลดพนักงานเพิ่มอีก 4,000 คน

ดิสนีย์ ยักษ์ธุรกิจบันเทิง และเจ้าของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ประกาศปลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีก 4,000 คน จากเดิมที่ประกาศปลด 28,000 คน ส่งผลให้จำนวนพนักงานที่ต้องตกงานสุทธิอยู่ที่ 32,000 คน นอกจากนี้ พนักงานที่ไม่เข้าข่ายพิจารณาปลดออกจากงานอีกจำนวน 37,000 คน ต้องเข้าโครงการลาพักงานโดยไม่ได้รับรายได้
.
สาเหตุเกิดจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ยังคงมีภาวะการระบาดที่รุนแรงต่อเนื่อง ทำให้สวนสนุกไม่สามารถกลับมาเปิดทำการได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน และชาวต่างชาติที่อยู่ในสหรัฐ เดินทางเข้าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์มีจำนวนน้อยมาก
.
ดิสนีย์ส่งเอกสารไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐ โดยชี้แจงว่า พนักงานที่ต้องถูกปลดออกจากงาน จะเป็นพนักงานในหน่วยธุรกิจสวนสนุก และหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ดิสนีย์
.
ข้อมูลเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า ดิสนีย์จ้างงานพนักงานประมาณ 203,000 คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีสัดส่วน 80% เป็นพนักงานจากทั่วโลกที่เป็นพนักงานประจำ ในส่วน 20% เป็นพนักงานชั่วคราว จากจำนวนทั้งหมด 203,000 คน มี 155,000 คน หรือราว 76% เป็นพนักงานในสวนสนุก และอยู่ในหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์ดิสนีย์ รวมถึงรีสอร์ต บริการเรือสำราญ และสินค้าของที่ระลึกดิสนีย์
.
ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ดิสนีย์เปิดเผยว่า โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลประกอบการของบริษัท ทำให้รายได้จากธุรกิจเสียหายมากถึง 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 74,400 ล้านบาทในช่วงไตรมาสที่ 4 ของงบประมาณบริษัทดิสนีย์ นอกจากนี้ รายได้ยังทรุดต่ำหนัก -61% เหลือเพียง 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 80,600 ล้านบาท