ดึงแม่ค้าออนไลน์เข้าระบบภาษีปีหน้า 1.7 แสนราย

706
0
Share:

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมตั้งเป้าหมายในการเข้าไปติดตามผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ ที่ขายของผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม ที่ยังเสียภาษีไม่ถูกต้อง ประมาณ 1.7 แสนราย เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีผู้เสียภาษีไม่ถูกต้อง 1 แสนราย โดยที่ผ่านมาในจำนวนนี้ กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความรู้ ติดตามให้มาเสียภาษีถูกต้องแล้ว กว่า 1 พันล้านบาท โดยในการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ปี 2562 ช่วงเดือน 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 2563 กรมขอให้ผู้ที่มีรายได้จากการขายของออนไลน์ มายื่นแบบเสียภาษีให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม
.
โดยปัจจุบันกรมได้ตั้งกองสำรวจธุรกิจนอกระบบ เข้ามาติดตามการเสียภาษีออนไลน์ให้ถูกต้อง พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยี ใช้ระบบเอไอเข้าไปตรวจสอบ และเครื่องมืออื่นๆ ทำให้รู้ข้อมูลว่ายังมีผู้ขายของออนไลน์เสียภาษีไม่ถูกต้องอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมต้องการสร้างความเป็นธรรมกับผู้ที่มีหน้าร้านค้าขายเสียภาษีถูกต้องทำให้เกิดความได้เปรียบ และยืนยันว่า ถ้ามีรายได้ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ หรือไม่ออนไลน์ ก็ต้องมีหน้าที่เสียภาษี และกรมไม่เคยไปจับรายย่อยแค่ต้องการสร้างความเป็นธรรม
.
สำหรับการยื่นแบบเสียภาษีปี 2561 ที่ผ่านมา ตั้งแต่ม.ค.-มี.ค. 2562 มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีรวม 10.7 ล้านราย โดยตั้งเป้าหมายผู้ที่ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2562 คาดว่าจะเข้าสู่ระบบได้ไม่ต่ำกว่า 11 ล้านราย ส่วนหนึ่งก็มาจากรายได้ผู้ขายของออนไลน์ รวมทั้งกรมได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ร่วมกับสตาร์ตอัพ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระภาษี และนำดิจิทัลมาใช้ในการยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต ถ้ายื่นแบบครบ ไม่มีหลบเลี่ยง กรมจะคืนภาษีให้ทันทีภายใน 3 วัน ผ่านพร้อมเพย์ทั้งหมด
.
นอกจากนี้จะให้ความสำคัญกับขายของออนไลน์ที่เป็นการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยเตรียมยกเลิก ข้อยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT 7% กับสินค้าที่สั่งซื้อออนไลน์และส่งไปรษณีย์เข้ามาจากต่างประเทศทุกชนิดราคาที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ที่ตอนนี้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เสียเปรียบมาก โดยปลัดกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดทางกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผลภายในปี 2563