ตกงานล้น! บริษัทอเมริกันปลดคนกว่า 33,000 ในเดือนเดียว สูงสุดใน 1 ปีกว่า

กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลสำรวจการปลดพนักงานของบริษัทสัญชาติอเมริกันในสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมผ่านไป พบว่ามีจำนวนพนักงานถูกปลดออกจากงานรวมกัน 33,843 คน ส่งผลทำสถิติยอดตกงานสูงที่สุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 เป็นต้นมา

สำหรับบางส่วนของบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกาที่ประกาศปลดพนักงาน มีดัง เมตา อินคอร์ปอเรชั่น หรือเฟซบุ๊ก ปลดพนักงานมากกว่า 11,000 คน หรือ 13% ของพนักงานทั้งหมด กลายเป็นการปลดพนักงานในธุรกิจไอทีที่มากที่สุดในปีนี้ ธนาคารซิตี่ กรุ๊ป ปลดพนักงานหลาย 100 คนในสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารมอร์แกน สแตนเลย์ เตรียมปลดพนักงานจำนวนมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ไมโครซอฟท์ อินคอร์ปอเรชั่น ปลดพนักงานเกือบ 1,000 คนในหลากหลายแผนก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เตรียมปลดพนักงานจำนวนหนึ่งหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่ามากขึ้น กระทบผลประกอบการของบริษัท ทวิตเตอร์ อินคอร์ปอเรชั่น ปลดพนักงาน 50% ของทั้งบริษัท หรือราว 3,700 คน

ลิฟท์สั่งปลดพนักงานรอบที่ 2 จำนวน 683 คน หรือ 13% ของพนักงานทั้งหมด หลังจากการปลดรอบแรกมีขึ้นราว 60 คนในช่วงต้นปีนี้ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ดิสคัพเวอร์รี ปลดพนักงานระหว่าง 5-10% ของทั้งหมด บียอนด์ มีท ปลดพนักงาน 200 คนในสิ้นปีนี้ สไตร์พซึ่งเป็นบริษัทให้บริการเทคโนโลยีการเงิน หรือฟินเทค ปลดพนักงาน 1,100 คน หรือ 14% ของทั้งหมด

โอเพ่นดอร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ปลดพนักงาน 550 คน โดยก่อนหน้านี้ สั่งปลดพนักงานไปแล้ว 830 คน ฟิลลิปส์66 เจ้าของปั้มน้ำมันในสหรัฐอเมริกาปลดพนักงานกว่า 1,100 คน ซีเกต เทคโนโลยี ปลดพนักงาน 3,000 คน หรือ 8% ทั่วโลก

แอไรวัล เอสเอ ธุรกิจสตาร์ทอัพรถไฟฟ้า หรือรถอีวี ปลดพนักงาน 30% ของทั้งหมด คอยน์เบสในวงการเงินคริปโทปลดพนักงานรอบที่ 2 กว่า 60 คน