ตลาดทุน-อุตสาหกรรม เชื่อว่าต่างชาติมั่นใจพล.อ.ประวิตรรักษาการนายกรัฐมนตรี

355
0
Share:

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยนั้น เชื่อว่าทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยเห็นว่าคำสั่งนี้ช่วยคลี่คลายปัญหาความตึงเครียดของกลุ่มผู้เห็นต่าง ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เพราะหากยังให้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต่อ ก็จะกลายเป็นความคาราคาซัง อาจจะมีผู้ไม่เห็นด้วยออกมาเคลื่อนไหว และหากภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ก็ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา จึงไม่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ในภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมกังวล คือ การเกิดความเห็นแย้งบานปลายจนนำไปสู่การชุมนุมของผู้เห็นต่าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน เพราะต้องยอมรับว่า ปัจจัยด้านการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน หากการเมืองมีเสถียรภาพ นักลงทุนก็มีความเชื่อมั่นสูง อย่างไรก็ตาม จากนี้ก็ต้องรอลุ้นคำวินิจฉัยว่าผลจะออกมาอย่างไร

ส่วนการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นไปตามกลไก และเป็นไปตามการคาดการณ์ของทุกฝ่าย เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ อันดับ 1 ซึ่งไม่ได้ส่งผลลบต่อภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เกิดสุญญากาศ ครม.ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

นายภากร ปิตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณี ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าศาลจะมีคำวินิฉัย ทำให้พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ยอมรับว่าปัจจัยการเมืองกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯมากนัก นักลงทุนสถาบัน จะมุ่งเน้นเรื่องการสานต่อนโยบายเศรษฐกิจในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ให้เดินหน้าไปต่อเนื่อง

นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ จะพิจารณาการลงทุน จากศักยภาพการทำกำไร ผลตอนแทนของหุ้นไทยที่มีศักยภาพ และโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ยอมรับว่า รัฐบาลหน่วยงานภาครัฐเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับเป็นข้อดีของประเทศ จึงสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน โดยเฉพาะการกระจายความเจริญไปต่างจังหวัด จากเดิมจีพีดีของประเทศกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯร้อยละ 70 ต่างจังหวัดร้อยละ 30 ขณะนี้เศรษฐกิจต่างจังหวัดเติมโตสูงมากสัดส่วนถึงร้อยละ 40 กทม.ร้อยละ 60

นอกจากนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศสูงถึง 1.8 แสนล้านบาท เฉพาะ เดือนกรกฏาคม 1 เดือน เงินทุนไหลเข้าสูงถึง 35,000 ล้านบาท มองว่าต่างชาติยังเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของประธานรัฐสภา ส่งคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ว่า เป็นไปตามกระบวนการที่จะให้รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ทำหน้าที่รักษาการ

ส่วนจะกระทบการประชุมเอเปคหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ดูจากเงื่อนเวลา ถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดเจนก่อนเกิดการประชุมเอเปคในเดือนพฤศจิกายน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หรือจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะกลับมา ก็สามารถเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ได้ ยืนยันว่าไม่กระทบกับการประชุมเอเปคและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกประเทศ ถ้าเป็นไปตามกระบวนการภายใน ทุกอย่างก็เดินหน้าต่อ