ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งขยายเวลาซื้อ-ขายหุ้นบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที หยืดหยุ่นให้แก่ผู้ลงทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์ใน SET และ mai โดยเปิดทำการซื้อขายช่วงบ่ายให้เร็วขึ้น 30 นาที
ทั้งนี้เนื่องมาจาก ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มีจำนวนชั่วโมงของเวลาเปิดทำการซื้อขายสำหรับ SET และ mai อยู่ที่ประมาณ 4.5 ชั่วโมงต่อวัน หากเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศพบว่า จำนวนชั่วโมงการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นอยู่ในระดับที่น้อยกว่าของตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่มีชั่วโมงการซื้อขายเฉลี่ยที่ 5-7 ชั่วโมงต่อวั
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหลายแห่ง เช่น Hong Kong Exchange, Singapore Exchange และ Korea Stock Exchange ยังมีการพิจารณาขยายเวลาทำการซื้อขาย เพื่อความหยืดหยุ่นให้แก่ผู้ลงทุนให้มีเวลาในการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันกับข่าวสารที่เกิดขึ้นในตลาดโลก ซึ่งนับวันจะมีความเป็นพลวัตรมากขึ้น รวมทั้งให้มีความสอดคล้องกับตลาดหลักทรัพย์ในต่างประทศ
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้มีการศึกษาและทบทวนหลักเกณฑ์เกี่บงกับช่วงเวลาการซื้อขาย โดยเทียบเคียงข้อมูลกับต่างประเทศและข้อมูลการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯเอง และเห็นเสนอว่าควรขยายเวลาทำการซื้อขายใน SET และ mai โดยลดช่วงเวลาหยุดพักการซื้อขายระหว่างวัน และเปิดช่วงเวลาทำการช่วงที่ 2 ให้เร็วขึ้น คือ
– ช่วงก่อนเปิดทำการช่วงที่ 2 เพื่อคำนวณหาราคาเปิด (Pre-open) คือ 14.10-14.30 น. เสนอใหม่เป็น 13.30-14.00 น.
– ช่วงเวลาทำการช่วงที่ 2 (เปิดซื้อขายภาคบ่าย) จากเดิม 14.30 -16.40 น. เสนอใหม่เป็น 14.00-16.40 น.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตลาดสินค้าอ้างอิงของสินค้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้แก่ SET50 Futures, SET50 Options, Single Stock Futures และ Sector Futures TFEX จึงจะทำการปรับเวลาทำการซื้อขายของอนุพันธ์เหล่านี้ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงเวลาซื้อขายของ SET และ mai ด้วย เบื้องต้น TFEX คาดว่าจะปรับช่วงเวลา Pre-open จากเดิมเวลา 13.45-14.15 น. เสนอใหม่เป็น 13.15 – 13.45 น. และช่วงเวลาเปิดการซื้อขายภาคบ่าย จากเดิม 14.15-16.55 เป็น 13.45-16.55 น.
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำเอกสารรับฟังความคิดเห็นพร้อมรายละเอียดไว้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ https://www.set.or.th/th/rules-regulations/market-consultation ซึ่งจะเปิดรับความคิดเห็นจนถึงวันที่ 24 พ.ย. 2566
