ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดดิ่งเลวร้ายสุดในรอบ 1 ปีกว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทรุดแรงกว่า 500 จุด

58
0
Share:

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 38,596  จุด -530 จุด หรือ -0.39 % ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,147 จุด -64 จุด หรือ -1.23% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,049 จุด -228 จุด หรือ 1.40% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดำดิ่งใน 1 วันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 1 ปี 2 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มีนาคม 2023 ที่สำคัญ ปิดหลุดระดับ 39,000 จุด และร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ต่อเนื่อง

ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ ขณะที่ในสัปดาห์ผ่านไป ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งในแง่รายเดือนปิดขึ้นแดนบวกเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนขาดความมั่นใจในโอกาสการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ โดยเฉพาะการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากผู้ว่าการเฟด สาขามินนาโพลิส นายนีล แคชคารี่ กล่าวว่าถ้าหากความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อที่ทยอยลดลงนั้น กลับไม่มีสัญญาณที่ดีอย่างที่คิดไว้ การลดดอกเบี้ยระยะสั้นอาจจะไม่จำเป็นในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งขยายตัวได้ท่ามกลางดอกเบี้ยในระดับสูง ขณะที่ประธานเฟดยืนยันต้องมีข้อมูลที่เชื่อใจได้ว่าเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่องจริง ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ สาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า อาจมีการลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ ท่ามกลางมุมมองในตลาดทุนที่ประเมินว่าจะลดถึง 3 ครั้ง

ทั้งนึ้ ด้านตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 62.3% จากเดิมที่ระดับ 70%