ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทรุดเกือบ 300 จุด หวั่นลดดอกเบี้ยสหรัฐไม่ชัดเจน

160
0
Share:
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วง ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ทรุดเกือบ 300 จุด หวั่นลดดอกเบี้ยสหรัฐไม่ชัดเจน

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,430 จุด -284 จุด หรือ -0.75% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,704 จุด -38 จุด หรือ -0.80% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,592 จุด -173 จุด หรือ -1.18% ส่งผลดัชนีหุ้นนาสแดคดำดิ่ง 4 วันทำการติดกันรวมกว่า -418 จุด ทำสถิติต่ำสุดในปีนี้ และตกต่ำมากที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน เมื่อวันจันทร์ผ่านมา ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดร่วงใน 1 วันทำการที่ย่ำแย่สุดในรอบ 2 เดือน หรือตั้งแต่ตุลาคมปี 2023

ขณะนี้ ยังห่างอีก 0.5% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,796.56 จุด และเหลืออีก 1.4% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,818.62 จุด สอดรับกับ ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดทรุดหนักหลุดระดับ 15,000 จุดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในปีนี้

นอกจากนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +0.65%, +0.22% และ +0.14% ตามลำดับ ในเดือนธันวาคมนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +4.89%, +4.72% และ +6.11% ตามลำดับ สอดรับกับในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +12.54%, +11.55% และ +14.19% ตามลำดับ ขณะที่ในปี 2023 ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +13.77%, +24.58% และ +44.22% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นนาสแดคกำลังทำสถิติดัชนีหุ้นรายปีปิดพุ่งมากที่สุดในรอบ 20 ปี หรือตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา ซึ่งในปีนั้น ดัชนีพุ่งกระฉูดถึง +50.01%

สาเหตุจากนักลงทุนไม่มั่นใจและเกิดความกังวลกับความไม่ชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกและมีจำนวนการลดดอกเบี้ยกี่ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดเมื่อประชุมครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคมปีผ่านมา พบว่า กรรมการมีความเห็นโดยทั่วไปว่ายังคงต้องเน้นความสำคัญในการรักษาความระมัดระวัง และให้น้ำหนักกับข้อมูลในการตัดสินใจดอกเบี้ยระยะสั้น นอกจากนี้ ยังเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า เป็นการเหมาะสมสำหรับนโยบายการเงิน หรืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ต้องอยู่ในภาวะตึงตัวไปอีกต่อเนื่องจนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อมีภาวะลดลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่องเพื่อเข้าสู่เป้าหมายของเฟด

นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับสูงขึ้นทันที และขึ้นสูงเหนือระดับ 4% ครั้งใหม่ และเป็นครั้งแรกของปี 2024 นี้

นักลงทุนแห่เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนาตาเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องหลังจากเปิดการซื้อขายในปี 2024 นี้ โดยเมื่อวันจันทร์ผ่านมา ธนาคารบาร์เคลย์ส ลดมุมมองระดับการลงทุนของหุ้นบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่นในปี 2024 ทำให้หุ้นบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีถูกเทขายอย่างหนาตาทั้งคืนผ่านมา ท่ามกลางการตีความวิเคราะห์ในตลาดเข้าใจกันว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยดังกล่าวถึง 3 ครั้งในปี 2024

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า มีโอกาสอยู่ที่ 65.7% จากเดิมที่ 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรก 0.25% ในเดือนมีนาคมปี 2024