ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นประวัติศาสตร์ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งแรงเกือบ 250 จุด

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม(ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 30,218 จุด +248 จุด หรือ +0.83% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,699 จุด +32 จุด หรือ +0.88% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,464 จุด +87 จุด หรือ +0.70% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งปิดสูงสุด และสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้น +1%, +1.7% และ +2.2% ตามลำดับ

.

สาเหตุจากตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐที่ลดต่ำลงเหลือเพียง 245,000 คน จากที่ตลาดคาดว่าควรจะอยู่ที่ 440,000 คน กลายเป็นปัจจัยบวกให้นักลงทุนมองว่ารัฐบาลสหรัฐจะต้องออกแพคเกจเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น

.

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 46.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.99% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.11% สาเหตุจากตลาดคาดการณ์รัฐสภาสหรัฐจะผลักดันแพคเกจเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 908,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 28 ล้านล้านบาท

.

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,840 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -1.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นถึง 3 วันติดต่อกัน ท่ามกลางปัจจัยบวกของข่าวการเสนอแพคเกจเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ มูลค่า 908,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 28 ล้านล้านบาท และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าต่อเนื่อง