ตลาดหุ้นสหรัฐสุดคึกคัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดกระฉูดกว่า 500 จุด มั่นใจดอกเบี้ยสหรัฐ

202
0
Share:
ตลาดหุ้นสหรัฐสุดคึกคัก ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดกระฉูดกว่า 500 จุด มั่นใจดอกเบี้ยสหรัฐ

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 35,950 จุด +520 จุด หรือ +1.47% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,567 จุด +17 จุด หรือ +0.38% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,226 จุด -32 จุด หรือ -0.23% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดสูงสุดในรอบปีนี้ ทำลายสถิติสูงสุดเดิมเมื่อเดือนสิงหาคมผ่านมา

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น +1.6% และ +0.2% ตามลำดับ มีแนวโน้มสูงที่จะปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลจะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ดัชนีหุ้นนาสแดคลดลง -0.2% อาจปิดในแดนลบครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ผ่านมา

สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2023 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.8%, +8.9% และ +10.7% ตามลำดับ ทำให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่ตุลาคมปี 2022 ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทำสถิติปิดรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคมปี 2022

ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงเดือนพฤศจิกายนผ่านไป พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้นถึง +8.9%, +19% และ +35.9% ตามลำดับ

สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนตุลาคมทั้งทั่วไป และพื้นฐาน โดยเฉพาะตัวเลขขั้นพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาพลังงานและราคาอาหาร พบว่าเพิ่มขึ้นตามที่คาดหมายไว้ที่ 0.2% และ 3.5% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้านี้ และเทียบไตรมาสเดียวกันกับในปีผ่านมาตามลำดับ

ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4.3% ทำสถิติเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ถึงแม้ว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 3 ที่ปรับปรุงใหม่กลับขยายตัวสูงกว่าคาดหมายมาอยู่ที่ระดับ 5.2% จากที่ประเมินไว้ที่ 5.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ส่งผลเป็นตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวมากสุดในรอบ 2 ปีท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐที่ทรงตัวในระดับสูงกว่า 22 ปี ด้านผู้ว่าการธนาคารสหรัฐอเมริกา หรือเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า ในการประชุมเฟดไม่เคยตีตกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ถ้าหากตัวเลขเงินเฟ้อไม่ได้มีสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจน

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% ยังคาดการณ์ว่ามีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในต้นเดือนมีนาคมปี 2024