ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายร่วงลงกว่า 10 จุด ก่อนปิดตลาดปรับลง 7.94 จุด ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่

276
0
Share:
ตลาด หุ้นไทย ช่วงบ่ายร่วงลงกว่า 10 จุด ก่อนปิดตลาดปรับลง 7.94 จุด ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,368.15 จุด ปรับลง 7.94 จุด หรือ -0.64% ด้วยมูลค่าซื้อขายสุทธิ 48,277.69 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับลงกว่า 10 จุด ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ทั้ง BBL, KBANK, PTTEP, CPALL , AOT ขณะเดียวกันเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ยังไหลออกต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 14.55 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,365.98 จุด ลดลงถึง 10.11 จุด

อีกทั้ง หุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปรับลงถ้วนหน้า ตอบรับยอดขาย EV ชะลอตัว ประกอบกับนักลงทุนยังกังวลวิกฤตทะเลแดงจะส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น และกระทบต่อการส่งออก ล่าสุดสื่อต่างประเทศตีข่าวว่าทางการจีนขอให้อิหร่านหาทางควบคุมพฤติกรรมกลุ่มฮูตี ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีนที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ส่วนตลาด SET 50 ปิด 836.86 จุด ลดลง -5.42 จุด หรือ-0.46% มูลค่าการซื้อขาย 26,699.82 ล้านบาท และตลาด mai ปิดที่ 408.82 จุด ลดลง -2.69 จุด หรือ -0.65% มูลค่าซื้อขาย 1,474.31 ล้านบาท

ส่วน 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. KBANK ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง -3.50 บาท
2. PTTEP ปิดที่ 149.00 บาท ลดลง -0.50 บาท
3. KBANK ปิดที่ 122.00 บาท ลดลง -1.00 บาท.

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. จิตตะ เวลธ์ กล่าวว่า การลงทุนในปี 67 นี้ ยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นโลกที่สามารถสร้างผลงานได้ดีในปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องถึงปีนี้ แม้ว่าเฟดส่งสัญญาณที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่เศรษฐกิจสหรัฐที่เผชิญแรงกดดันจากดอกเบี้ยสูงมานาน 18 เดือนตั้งแต่ช่วงมี.ค.65 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ถูกคงไว้ในระดับสูงเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อย แต่เชื่อว่าหุ้นสหรัฐได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปีที่ผ่านมา ดังนั้นปีนี้จะมีโอกาสที่จะปรับขึ้นมากกว่า

น.ส.ชุติกาญจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นบ้านเรายังเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และยังไม่เห็นแรงซื้อกลับมาชัดเจน อีกทั้งวันนี้ตัวเลขนำเข้าออกมาน่าผิดหวัง โดยติดลบไปถึง 3% สะท้อนดีมานด์ในประเทศชะลอ รวมถึงส่งออกก็ออกมาต่ำกว่าคาด สินค้าบางตัว อย่างอิเล็กทรอนิกส์ก็คาดว่าปีนี้จะหดตัวต่อเนื่องด้วยขณะที่นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลข PCE สหรัฐในคืนนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน หากชะลอตัวลง ก็อาจเป็นบวกต่อตลาดฯ แต่หากมากกว่าคาด ก็จะสร้างความกังวลได้ โดยห้แนวรับไว้ที่ 1,360-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด