ตลาดหุ้นไทยปิดดิ่งแรงกว่า 21.27 จุด ไร้ปัจจัยหนุน การเมืองผันผวน ตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ

183
0
Share:
ตลาด หุ้นไทย SET Index ปิดดิ่งแรงกว่า 21.27 จุด ไร้ปัจจัยหนุน การเมืองผันผวน ตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดอยู่ที่ 1,529.01 จุด ปรับร่วงลง 21.27 จุด หรือ -1.37% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 51,342 ล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวลง ทำจุดต่ำสุด 1,528.63 จุด และทำจุดสูงสุด 1,546.11 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 124 หลักทรัพย์ ลดลง 361 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 157 หลักทรัพย์

ทั้งนี้ หุ้นไทยในภาคบ่ายดิ่งลงแรงก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 15.37 น. ลดลง 19.65 จุด หรือ 1.27% ดัชนีปรับลงมาอยู่ที่ระดับ 1,530.63 จุด หลัง ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนวินิจฉัยรับหรือไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมติเสียงข้างมากรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับการเสนอโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยจะเตรียมพิจารณาในวันที่ 16 ส.ค. ขณะที่ประธานรัฐสภาให้เลื่อนวันโหวตนายกฯ จากเดิมมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) เป็นจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเลื่อนแถลงจัดตั้งรัฐบาล

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส ประเมิน ประเมินสภานการณ์ข้างต้นเป็นลบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนจากความล่าช้าการจัดตั้งรัฐบาล กดดันค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่า 0.23% มาที่ 34.48 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นลบต่อ Fund Flow ด้านปัจจัยภายนอกอยู่ในช่วงความผันผวนจากประเด็นกดดันของ Fitch Rating ปรับอันดับเครดิตสหรัฐฯมาที่ AA+ จากเดิม AAA

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน มองว่าปัจจัยการเมืองทั้งหมด กดดันตลาดหุ้นไทยพักตัวระยะสั้น มองฐาน 1535-1520จุด/1515จุด น่าจะประคองอยู่ และ หุ้นกลุ่มอิงภายใน หรือกลุ่มถ่วงจากการเมืองที่ทยอยรีบาวน์ขึ้นมามีโอกาสถูกขายลดเสี่ยงระยะสั้น ให้รอตั้งรับ

สำหรับ 3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,052.70 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,645.87 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,637.00 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

ขณะที่ตลาด SET50 ปิดที่ 947.72 จุด ปรับ -15.29 จุด หรือ -1.59% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33,575.44 ล้านบาท

ด้านตลาด mai ปิดที่ 458.01 จุด ปรับ -4.97 จุด หรือ -1.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 957.48 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจาก sentiment การลงทุนถูกดดันจากการที่ฟิทช์เรทติ้งส์ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันภาพรวมทำให้เกิดการปรับฐานหลังจากดีดขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ แม้ตลาดจะรับข่าวการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความไม่แน่นอน การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อออกไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เมื่อต้องเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปจากกำหนดเดิมในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้เลื่อนการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.ทำให้การเมืองเกิดความไม่ชัดเจน และส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน

แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ยังไร้ปัจจัยหนุน ขณะที่การประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE) วันนี้ตลาดคาดว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อภาพรวมตลาดหุ้นให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด