ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.44 จุด แกว่งตัวปรับลงตามภูมิภาค เกาะติดตัวเลข GDP-PCE สหรัฐ

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,393.70 จุด ปรับลง 4.44 จุด หรือ -0.32% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55,731.56 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,390.05 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,401.14 จุด

3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,786.75 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
2. SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,195.10 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3. KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,686.54 ล้านบาท ปิดที่ 16.00 บาท ลดลง 0.30 บาท

สำหรับตลาด SET 50 ปิด 849.90 จุด ปรับ-5.22 จุด หรือ -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 32,750.03 ล้านบาท และตลาด mai ปิดที่ 427.31 จุด ปรับ +5.59 หรือ +1.33% มูลค่าซื้อขาย 2,446.14 ล้านบาท

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีเหวี่ยงตัวออกด้านข้างอิงทางลง สอดคล้องกับตลาดทั่วโลกที่มีลักษณะซึมตัว เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/66 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ม.ค. เพื่อประเมินเงินเฟ้อสหรัฐ

ส่วนในประเทศไร้ปัจจัยใหม่เข้ามามีผลต่อดัชนี และยังคงติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล โดยวันนี้มีแรงขายทำกำไรจากหุ้นที่ผลประกอบการออกมาไม่ดีถ่วงตลาด อย่างไรก็ตามหุ้น CPALL ที่ปรับตัวขึ้นช่วยประคองตลาดได้บ้าง

ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง โดยคาดว่าการเปิดเผยตัวเลข GDP ของสหรัฐในคืนวันพรุ่งนี้อาจไม่แย่ โดยให้กรอบแนวรับ 1,385 จุดและแนวต้าน 1,404 จุด