ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้บวกได้เล็กน้อย 1.45 จุด ยังไร้ปัจจัยใหม่ จับตาการเมือง

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดอยู่ที่ 1,530.46 จุด ปรับขึ้น 1.45 จุด หรือ +0.09% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44,510 ล้านบาท ซึ่งดัชนีเคลื่อนไหวแดนบวก โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,530.34 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,539.07 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 231 หลักทรัพย์ ลดลง 177 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 224 หลักทรัพย์

สำหรับ 3 หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,409.51 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,906.86 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,890.38 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาด SET50 ปิดที่ 948.68 จุด ปรับ +0.96 จุด หรือ +0.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,326.04 ล้านบาท

ตลาด mai ปิดที่ 461.31 จุด ปรับ +3.30 จุด หรือ+0.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 891.17 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้เล็กน้อยหลังจากปรับตัวลงแรงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. สหรัฐฯ ในคืนนี้ ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่ จึงเป็นการรีบาวด์ระยะสั้น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า คาดแกว่งออกด้านข้าง นักลงทุนรอดูท่าทีพรรคเพื่อไทยในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล หากการเจรจาเป็นไปในเชิงบวกมีแนวโน้มดัชนีรีบาวด์ รวมทั้งรอดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศไทยและตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ พร้อมทั้งให้แนวต้าน 1,540-1,560 จุด และแนวรับ 1,520-1,530 จุด

ด้านนายสุนทร ทองทิพย์ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นด้วย 2 ปัจจัยคือราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจากกระแสข่าวกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อเนื่องและเป็นการรีบาวด์เชิงเทคนิค (Technical Rebound) หลังจากที่ปรับตัวลดลงมากเเล้วเมื่อวานนี้

โดยประเมินว่าต้นสัปดาห์หน้ามีโอกาสเเกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,520-1,560 จุด