ตำรวจปัดประกันตัวมหาเศรษฐี-ผู้ก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ แพลตฟอร์มเทรดบิทคอยน์ล้มละลาย

265
0
Share:
ตำรวจปัดประกันตัว มหาเศรษฐี - ผู้ก่อตั้ง เอฟทีเอ็กซ์ แพลตฟอร์มเทรดบิทคอยน์ล้มละลาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งประเทศบาฮามาส เปิดเผยว่า ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ ผู้ก่อตั้ง มหาเศรษฐีในวงการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซี และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เอฟทีเอ็กซ์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีใหญ่อันดับ 2 ของโลก หลังจากผู้ต้องหาคนดังกล่าวได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบาฮามาสเข้าจับกุมนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ เมื่อวานนี้

หัวหน้าสำนักงานตำรวจแห่งประเทศบาฮามาส เปิดเผยว่า สาเหตุที่ปฏิเสธการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีความเสี่ยงสูงมากที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ จึงมีคำสั่งให้ส่งตัวนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ เข้าคุกมีผลทันทีจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการกระบวนการศาลต่อไป

ขณะที่ ศาลในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้พิจารณาและตั้งความผิดคดีอาญากับนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ อายุ 30 ปี ใน 8 กระทง เช่น คดีฉ้อโกง และละเมิดหรือกระทำผิดกฎหมายการเงินการลงทุนว่าด้วยการนำเงินกองทุนของลูกค้าไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์สูงถึง 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 284,000 ล้านบาท หากการพิจารณาเสร็จสิ้นและมีคำตัดสินถึงที่สุดจะทำให้ติดคุกรวมกันทั้งสิ้น 115 ปี ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา

สาเหตุจากกระทรวงยุติธรรม อัยการในสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้ประสานงานไปยังอัยการสูงสุดแห่งบาฮามาส ในการออกหมายจับคดีอาญากับแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ อดีตซีอีโอเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งล้มละลาย และร้องขอต่อศาลพิทักษ์ทรัพย์สินเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทแม่และบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมกับเอฟทีเอ็กซ์รวมกว่า 100 แห่งล้มละลาย

ตลอดเวลากว่า 2 สัปดาห์ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม และอัยการสูงสุดแห่งรัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกับอัยการสูงสุดแห่งบาฮามาส ในการสืบสวนสอบสวนนายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ ในคดีการประพฤติผิดด้านการบริหารจัดการการลงทุนเงินคริปโทเคอร์เรนซีโดยใช้เงินลงทุนของลูกค้าไปในทางผิดกฎระเบียบและวัตถุประสงค์การลงทุน ทำให้เกิดสภาวะวิกฤติสภาพคล่องอย่างรุนแรง ไม่สามารถคืนเงินลงทุนและผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรวมถึงเจ้าหนี้ทุกระดับชั้น

กรณีดังกล่าวพบว่า นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ มีการยักยอกเงินลงทุนของลูกค้าไปให้กับบริษัทในเครือมีชื่อว่า อลาเมด้า รีเสิร์ช ซึ่งหลักฐานทั้งหมดยืนยันได้ว่านายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ กระทำความผิดจริง กรณีนี้เป็นเพียงหนึ่งในความผิดอีกหลายกรณีที่กำลังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ยุติธรรมและตำรวจของทั้ง 2 ประเทศ

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เอฟทีเอ็กซ์ถูกประกาศล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนนั้น ขณะที่ นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ กล่าวกับสื่อโดยยอมรับว่าเข้าได้บริหารงานผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่ปฏิเสธว่าได้เข้าไม่ได้หลอกลวง ฉ้อโกง หรือกระทำผิดต่อกฎหมาย

เมื่อเอฟทีเอ็กซ์ในสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลาย นายแซม แบงค์แมน-ไฟรด์ เปิดเผยว่า มูลค่าหนี้ที่เกิดจากการกู้ยืมจากนักลงทุนและสถาบันการเงินใน 50 อันดับแรกมีมูลค่ารวมกันมากถึง 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 111,600 ล้านบาท ในจำนวนมูลค่าหนี้ที่เอ็กทีเอ็กซ์เป็นหนี้สินดังกล่าว พบว่า เจ้าหนี้ใน 10 อันดับแรกมีมูลหนึ้ที่เอฟทีเอ็กซ์คิดค้างอยู่รวมกัน 1,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 52,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เอฟทีเอ็กซ์ในประเทศบาฮามาส ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเอฟทีเอ็กซ์ประกาศล้มละลาย และขอยื่นศาลให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินตามมาตรการ 15 ในสหรัฐอเมริกา