ต้องรื้อค่าไฟใหม่! ส.อ.ท.จี้รัฐบาล ปรับโครงสร้างค่าไฟช่วยภาคอุตสาหกรรม ด้านหอการค้า

275
0
Share:
ต้องรื้อ ค่าไฟ ใหม่! ส.อ.ท.จี้ รัฐบาล ปรับโครงสร้าง ค่าไฟช่วยภาคอุตสาหกรรม ด้านหอการค้า

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่าช่วงปลายปีนี้ที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนอยากให้ช่วยเหลือเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน ที่มองว่าหลังจากนี้ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้ค่าพลังงานสูงขึ้น รวมถึงค่าแรงที่ปรับขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม รวมทั้งค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ล้วนเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การออกแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปจะเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอี ผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ จนกว่าจะถึงช่วงที่คลี่คลายได้ในปี 2566 ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี มาได้ถูกเวลาแล้ว

โดยเอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเพิ่มเติม คือ ภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญกับต้นทุนพลังงาน ที่สะท้อนไปยังค่าขนส่ง ค่าไฟ โดยหลายอุตสาหกรรมมีคู่แข่งผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน ทำให้แข่งขันได้ยาก จึงอยากให้กลับมาดูแก้ไขปัญหาโครงสร้างค่าไฟ ค่าพลังงานที่ต้องเผชิญ หากมีมาตรการใดที่จะช่วยลดผลกระทบให้กับภาคเอกชนด้านต้นทุนได้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุ การท่องเที่ยวซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ภาคการส่งออกปี 2565 คาดว่าโตได้ 7-8% ต่อปี และภาคการเกษตรก็เก็บเกี่ยวได้ดี สะท้อนจากการซื้อรถยนต์ รถปิ๊กอัพ รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

แต่ขณะนี้ยังมีความเป็นห่วงเรื่อง อุทกภัยที่สร้างความเสียหายแล้ว 53 จังหวัด ซึ่งประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เสียหายในส่วนภาคการเกษตร 1 หมื่นล้านบาท และอีก 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนอื่นๆ เช่น บ้านเรื่อนประชาชน การขนส่ง เป็นต้น ซึ่งล่าสุดภาครัฐได้ประกาศจะนำเงินออกมาเยียวยาประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท แต่หากดูในรายละเอียดรัฐบาลได้แบ่งงบมา 6 พันล้านบาทจาก 2.3 หมื่นล้านบาท มาใช้เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหอการค้ามองว่าไม่เพียงพอ เพราะจากการประเมินความเสียหายพบว่าอาจจมีกว่า 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นหอการค้าจึงจะขอเข้าไปหารือกับภาครัฐ เรื่องขอให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม

ส่วนมาตรการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และช้อปดีมีคืนนั้น เป็นมาตรการที่ภาครัฐเคยใช้ และเห็นผลดี และอยากเสนอให้เพิ่มวงเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เห็นผลการกระตุ้นมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ภาคเอกชนยังเชื่อมั่นว่าจีดีพีในไตรมาสสุดท้ายยังดีอยู่และคาดว่าทั้งปี 2565 จีดีพีจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% ส่วนปี 2566 หากปัญหาน้ำท่วมลดลง เกิดการใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้าน การซ่อมแซมถนน ทำให้มีเม็ดเงินลงไปสู่ภูมิภาคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจากการที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2022 ก็จะทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจีดีพีมีโอกาสโตได้ถึง 4%