สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. เผยแพร่ “คำสั่งนายทะเบียนที่ 47/2566 เรื่องให้ใช้แบบ ข้อความ และพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัย ของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle – BEV) โดยไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถยนต์สันดาป
ความคุ้มครองแบตฯ ที่เปลี่ยนไปตามอายุการใช้งาน จากเกณฑ์ใหม่ประกันรถ EV ฉบับนี้ จะมีผลโดยตรงกับความคุ้มครองแบตเตอรี่ High-Voltage ของรถ EV จากความคุ้มครอง 100% จะคุ้มครองน้อยลงเรื่อยๆ ตามอายุการใช้งานของรถ EV
ยกตัวอย่างเช่น ราคาแบตเตอรี่ 1,000,000 บาท บริษัทประกันจะจ่ายให้ 900,000 บาท ส่วนเจ้าของรถต้องออกเงินเอง 100,000 บาท และเมื่อซากแบตเตอรี่ก้อนเดิมถูกขายได้ บริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าของรถจากยอดขายแบตเตอรี่ก้อนเดิมเป็นสัดส่วน 10%
อัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน
* ไม่เกิน 1 ปี ชดใช้ 100%
* เกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี ชดใช้ 90%
* เกินกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ชดใช้ 80%
* เกินกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี ชดใช้ 70%
* เกินกว่า 4 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี ชดใช้ 60%
* เกินกว่า 5 ปี ขึ้นไป ชดใช้ 50%
ทั้งนี้ ผู้เอาประกันสามารถแจ้งระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุด 5 คน โดยจะระบุลงในตารางกรมธรรม์สูงสุดไม่เกิน 2 คน แต่กรณีระบุผู้ขับขี่เกิน 2 คน จะระบุชื่อผู้ขับขี่ทั้งหมดไว้ในเอกสารแนบท้ายแทน
โดยคำสั่งดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป หากบริษัทประกันภัยไม่สามารถออกกรมธรรม์ตามคำสั่งฉบับใหม่ได้ สามารถยึดเกณฑ์เดิมได้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
สามารถเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.oic.or.th/