ถดถอยแน่! คนไทยราว 1 ใน 3 ที่เป็นคนจนจะถูกซ้ำเติมหนักจากเศรษฐกิจโลกถดถอย

372
0
Share:
ถดถอยแน่! คนไทย ราว 1 ใน 3 ที่เป็น คนจน จะถูกซ้ำเติมหนักจาก เศรษฐกิจโลกถดถอย

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่อัตราเงินเฟ้อโลกหรือ Global Inflation ที่ส่งผลต่อต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการลดลง แม้ว่าภาคส่งออกของไทยจะได้แต้มต่อจากเงินบาทอ่อนค่า แต่สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ ต้องนำเข้าวัตถุดิบและชิ้นส่วน ซึ่งได้รับผลกระทบจากมากไปน้อย แตกต่างกันในแต่ละประเภทสินค้า อีกทั้งค่าเงินของประเทศคู่ค้า เช่น จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น อ่อนค่ามากกว่าเงินบาท จึงจะส่งผลให้การส่งออกในช่วงปลายปีเริ่มชะลอตัว

ในปัจจุบันมีสัญญาณชัดเจนว่า การค้าระหว่างประเทศที่เริ่มทยอยลดลง เนื่องจากปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งที่เป็นในส่วนของการนำเข้าและส่งออก ที่ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาขาดแคลนอย่างรุนแรงไปทั่วโลก จนส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทยนั้น ล่าสุดพบว่าปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ ได้เริ่มกลับมามีจำนวนเหลือเกินความต้องการใช้ในตลาดโลก รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเริ่มลดลง

โดยสะท้อนจากค่าระวางเรือขนส่งระหว่างประเทศ (Freight Charge) จากประเทศไทยไปยังท่าเรือต่างๆทั่วโลก ราคาได้ปรับลง 1.5-3 เท่าจากเดิม ทั้งค่าขนส่งไปสหภาพยุโรป, ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ที่ประเทศจีน ฯลฯ จึงเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างแท้จริง และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยปลายปีนี้และต่อเนื่องไปอย่างน้อยถึงครึ่งแรกของปีหน้า

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยเผชิญภาวะขยายตัวส่งออกสูงสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว จากนี้ไป สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เริ่มดิ่งเหวจะทำให้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของประเทศไทยที่จะครอบคลุมไปถึงช่วงกลางปี 2566 ได้แก่ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าทรุดตัวลงรุนแรงไปถึงถดถอยหนักสุดในรอบ 4 ทศวรรษ จึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่กระทบถึงประเทศไทย นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่จะต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ประเทศไทยก็จะเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน และทำให้ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคแพงขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจัยด้านสภาพคล่องของภาคธุรกิจเริ่มลดลง แต่ปัญหาหนี้ครัวเรือนจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้คนจนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพบว่าหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นถึง 492,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้อาจสูงถึง 700,000 ล้านบาท โดยหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยกับปริมาณคนจนที่เพิ่มมากขึ้นสะท้อนจากการขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยสวัสดิการของรัฐหรือบัตรคนจนที่มีถึง 20 ล้านคน แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางทางโครงสร้างของประเทศไทยที่ประชากรเกือบ 1 ใน 3 เป็นคนจน

ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท มีความผันผวนที่จะอ่อนค่าต่อเนื่อง จากการศึกษาเปรียบเทียบพบว่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นผลอย่างเป็นนัยกับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ โดย 9 เดือนแรกปีนี้ อัตราแลกเปลี่ยนบาทอ่อนค่าถึง 14.33% และมีแนวโน้มที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง