ถล่มขายหุ้นสหรัฐทำกำไร หยุดตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก 9 ติด หุ้นนาสแดคปิดหลุด 15,000 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,082 จุด -475 จุด หรือ -1.27% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,698 จุด -70 จุด หรือ -1.47% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,777 จุด -225 จุด หรือ -1.50% ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติสูงสุดเหนือ 37,000 จุดถึง 5 วันต่อเนื่อง และครั้งประวัติการณ์รอบใหม่

เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ยังไม่สามารถเข้าใกล้สถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ ขณะนี้ ยังห่างอีก 1.2% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,796.56 จุด และเหลืออีก 2% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเดิมมีสถิติอยู่ที่ 4,818.62 จุด

สอดรับกับ ดัชนีหุ้นนาสแดคไม่สามารถปิดเหนือ 15,000 จุดต่อเนื่องได้ หลังจากเมื่อวันพุธผ่านมา ดัชนีหุ้นดังกล่าวปิดเหนือ 15,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หรือตั้งแต่เมษายน ปี 2022 ขณะนี้ ยังเหลืออีก 9% ที่จะทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ และเหลืออีก 10% ที่จะทำสถิติดัชนีสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

นอกจากนี้ ยังหยุดตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดขึ้นแดนบวกเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน และในเดือนธันวาคมนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +3.23%, +2.93% และ +4.0% ตามลำดับ ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงคืนผ่านมา ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสูงขึ้น +12.03%, +22.73% และ +41.80% ตามลำดับ

ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.9%, +2.6% และ +2.9% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และนาสแดค จะปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี 10 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2019 ซึ่งในเวลานั้น ปิดต่อเนื่องยาวนานถึง 9 สัปดาห์ เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 2017 และดัชนีหุ้นนาสแดค จะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ปี 2023

สาเหตุจากนักลงทุนถึงจุดขายทำกำไรครั้งแรกหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดขึ้นแดนบวกถึง 9 วันทำการติดต่อกัน ท่ามกลางการตีความวิเคราะห์ในตลาดเข้าใจกันว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยดังกล่าวถึง 3 ครั้งในปี 2024 แต่นักลงทุนยังมั่นใจว่าสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด หลังจากการกล่าวของประธานเฟดภายหลังสิ้นสุดการประชุมมีมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมผ่านไป นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่าเฟดยังส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า 2024

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า มีโอกาสอยู่ที่ 72% จากเดิมที่ 65% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรก 0.25% ในเดือนมีนาคมปี 2024