ถล่มยับดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทรุดลงเหวลึกกว่า 1,100 จุด

373
0
Share:
หุ้น
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,490 จุด -1,164 จุด หรือ -3.57% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,923 จุด -165 จุด หรือ -4.04% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,418 จุด -566 จุด หรือ -4.73% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่งต่ำสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคม 2021 นอกจากนี้ ทำสถิติดัชนีร่วงระนาวมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือตั้งแต่มิถุนายน 2020 เป็นต้นมา สอดคล้องกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทรุดลงเหวมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือตั้งแต่มิถุนายน 2020 เป็นต้นมา
สาเหตุจากนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์การลงทุนแต่อย่างใดท่ามกลางปัจจัยลบของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา ทำให้นักลงทุนถล่มเทขายหุ้นทุกกลุ่มทั้งคืนผ่านมา เช่น หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดำดิ่งหนักกว่า 6.1% นอกจากนี้ ผลประกอบการรายไตรมาสของวอล-มาร์ท และทาร์เก็ต 2 ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้ออน่างรุนแรง สร้างความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกาที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 8.2% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในแง่เฉลี่ย 1 ปี ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดที่ 8.5% ในรอบ 40 ปีต่อเนื่อง ยังคงสร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต่อไป
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 109.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.2% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 109.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.4% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
สาเหตุจากอัตราการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐอเมริกาของโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ กลับเพิ่มสูงมากขึ้นหลังจากปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาทรุดต่ำลง 3.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ บรรยากาศการถล่มเทขายหุ้นอย่างเลวร้ายในสหรัฐอเมริกา รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาพุ่งแข็งค่าสูงขึ้น กดดันต่อการขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า นอกจากนี้ กลุ่มสหภาพยุโรปประสบความล้มเหลวในการโน้มน้าวประเทศฮังการีให้ยกเลิกมติไม่เห็นด้วยกับมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซีย
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,818.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -1.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.04% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นครั้งใหม่ อยู่ใกล้เคียงสถิติระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นกลับทรงตัวแตะ 3% สูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้