ถูกทุกสาย! “สุริยะ” ตั้งเป้าดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางภายใน 2 ปี

ถูกทุกสาย! “สุริยะ” ตั้งเป้าดันนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกเส้นทางภายใน 2 ปี

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยระบุว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายลดค่าครองชีพในการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า และนำร่องปรับราคาค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและรถไฟชานเมืองสายสีแดง พบว่ามีปริมาณผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น และล่าสุดในส่วนของรถไฟชานเมืองสายสีแดงยังสามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) อย่างไรก็ดี แผนการดำเนินงานหลังจากนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าจะผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายให้เกิดขึ้นครอบคลุมระบบรถไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านไปแล้วครึ่งปี จะพยายามดำเนินการให้ออกมาให้เป็นรูปธรรมให้ได้ หากร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. ผ่านการพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในกลางปีนี้

“การผลักดันรถไฟฟ้า 20 บาทให้ครอบคลุมทุกเส้นทาง แน่นอนว่าปัจจุบันมีรถไฟฟ้าหลายสายที่บริหารโดยเอกชนที่มีคู่สัญญากับภาครัฐ แนวทางดำเนินงานคือกระทรวงฯ จะไม่ให้กระทบกับสัญญาสัมปทาน ดังนั้นจำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และผลักดันการจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเงินในกองทุนดังกล่าวมาชดเชยรายได้ให้แก่เอกชน ไม่ให้ผิดสัญญาสัมปทาน”

โดยตามผลการศึกษาในปัจจุบัน กรมการขนส่งทางรางได้มีการประเมินว่าหากใช้นโยบายรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จะต้องใช้เงินชดเชยจำนวนประมาณ 8 พันล้านบาท โดยการจัดหาเงินชดเชยดังกล่าวจึงมองว่าจะต้องมีการจัดตั้งกองทุน และระดมเงินมาจากหลายส่วน อาทิ ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล และส่วนแบ่งรายได้จากค่าโดยสารรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เดิมต้องนำส่งกระทรวงการคลัง เป็นต้น

ดังนั้นในปี 2567 กระทรวงฯ ยอมรับว่าจะยังไม่มีรถไฟฟ้าสายใดที่สามารถเข้าร่วมนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทได้เพิ่มเติม เนื่องจากมีความจำเป็นต้องรอให้มีการพิจารณา พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จก่อน โดยกรอบการดำเนินงานที่ประเมินไว้ในขณะนี้ คาดว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วมจะสามารถเสนอคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ประมาณเดือน มี.ค. – พ.ค.2567 เนื่องจากสถานะปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนศึกษารายละเอียด รวมถึงข้อกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆหลังจากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาประมาณเดือน มิ.ย. – พ.ย. 2567 และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในเดือน ธ.ค. 2567 – ส.ค.2568 เบื้องต้นจึงประเมินว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วม พ.ศ. …. จะสามารถออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ประมาณเดือน ก.ย.-พ.ย.2568 ซึ่งอยู่ในเป้าหมายของกระทรวงฯ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles