ททท. จับมือ LOI กับ Klook แพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำ ดึงนักท่องเที่ยวอาเซียน เอเชียใต้ แปซิฟิกใต้

86
0
Share:

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยททท. ) และ Mr. Eric Gnock Fah ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และผู้ก่อตั้ง บริษัท คลูก เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ Klook ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) พันธมิตรทางธุรกิจ ปักหมุดตลาดนักท่องเที่ยวอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ร่วมส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ด้วย Soft Power 5F และมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมี นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. และ Ms. Michelle Ho ผู้จัดการทั่วไป Klook ประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม ณ อาคาร ททท. สำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ความร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Klook ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว และทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวตลาดอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ โดย ททท. จะร่วมกับ Klook ส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ด้วยจุดแข็งของประเทศไทยที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามของธรรมชาติ และความหลากหลายของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่พร้อมจะรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ในทุกรูปแบบ โดยจะนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วย Soft Power of Thailand 5F: Food, Flim, Fashion, Fight, Festival และเน้นส่งเสริมการโปรโมทประสบการณ์ 5 Must Do in Thailand กระจายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองน่าเที่ยว หรือ Hidden Gems พร้อมๆ ไปกับการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมอีเวนต์และเทศกาลต่างๆ ที่จะมีมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง Event ระดับโลก

Mr. Eric Gnock Fah ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และผู้ก่อตั้ง Klook กล่าวว่า Klook มีความยินดีที่จะร่วมมือกับ ททท. เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่สุดพิเศษและมีคุณค่าในประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดไปจนถึงเมืองน่าเที่ยว ซึ่งเป็นความพิเศษที่รอการค้นพบ โดยจากการสำรวจ Travel Pulse ของ Klook พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในปัจจุบันนิยมที่จะแสวงหาประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่แตกต่างและให้ความสำคัญกับการลิ้มรสอาหาร และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น เที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น และร่วมงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งสำหรับประเทศไทย แพลตฟอร์มของ Klook นำเสนอ 1,700 ประสบการณ์ และกว่า 10,000 แพ็คเกจ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 ในปีนี้ ซึ่งจะรวมถึง 5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย (5 Must Do in Thailand) อาทิ การชมมวยไทย หรือการชิมร้านอาหารมิชลิน บิบกูร์มองด์ เจ๊โอว และการล่องเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ รวมถึงทำให้ประสบการณ์ในการจองบัตรเข้าร่วมงานอีเวนต์และเทศกาล ที่พัก และบริการต่างๆ เป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของการท่องเที่ยวไทย ขณะเดียวกัน Klook ยังมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทยในเรื่องของความยั่งยืน และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมในวงกว้าง

นอกจากนี้ การนำเสนอเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gems) บนแพลตฟอร์ม Klook ทำให้ผู้ใช้งาน Klook จากทั่วโลกสามารถเข้าถึงและเดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองเหล่านี้ได้ โดยร้อยละ 80 ของประสบการณ์ใหม่ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่จะนำเสนอและให้บริการเพิ่มในปีนี้มาจากผู้ประกอบการท้องถิ่นขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งนับว่าเป็นการส่งเสริมชุมชนท้องถิ่น และช่วยกระจายรายได้ทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ททท. และ Klook เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้น และมุ่งส่งมอบประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม