ททท.หวังสูง 300,000 ล้านบาทจากทัวร์ยุโรป-อเมริกาเหนือมาไทย

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าตลาดที่รับผิดชอบจะสามารถสร้างรายได้ในปีนี้ได้ตามเป้า 300,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของรายได้จากตลาดต่างประเทศในปีนี้ ที่มีเป้าหมายรวมที่ 1 ล้านล้านบาท ส่วนอีก 70% เป็นรายได้ที่มาจากตลาดระยะใกล้ ที่มั่นใจได้ตามเป้าเช่นกัน

สำหรับอุปสรรคของตลาดระยะไกล คือเรื่องสายการบินที่ยังกลับมาบินไม่เหมือนเดิม ทำให้ราคาค่าโดยสารแพงขึ้น แม้นักท่องเที่ยวจะยอมจ่ายก็ยังหาที่นั่งเพื่อการเดินทางไม่ได้ อีกทั้งในเดือน พ.ย.นี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ ทำให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ และสายการบินในตะวันออกกลาง จะบินรองรับนักกีฬาและแฟนบอลทั่วโลกเป็นการเฉพาะ ส่งผลให้ไม่มีการเพิ่มเที่ยวบินไปยังตลาดระยะไกล เช่น สหรัฐฯ ยุโรป เพื่อบินเชื่อมมาประเทศไทย ททท.กำลังประสานสายการบินต่างๆให้กลับมาบินให้มากที่สุด หรือจัดหาเที่ยวบินเช่าเหมาลำในตลาดที่นักท่องเที่ยวพร้อมเดิมทาง

ด้านราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้นนั้น พบว่า ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ก่อนโควิด-19 ราคาตั๋วโดยสาร 30,000-45,000 บาท ปัจจุบันบินตรง 120,000-130,000 บาท สหราชอาณาจักร ก่อนโควิด-19 ราคา 25,000-30,000 บาท ปัจจุบันบินตรง 35,000-50,000 บาท ฝรั่งเศส ก่อนโควิด-19 ราคา 30,000-40,000 บาท ปัจจุบันบินตรง 40,000-50,000 บาท

เช่นเดียวกับรัสเซีย ก่อนโควิด-19 ราคา 25,000-30,000 บาท ปัจจุบันไม่มีบินตรง ทำให้ราคาตั๋วโดยสารขึ้นไปอยู่ที่ 100,000-120,000 บาท ตะวันออกกลาง ก่อนโควิด-19 ราคา 15,000-20,000 บาท ปัจจุบันบินตรง 25,000-30,000 บาท

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในปี 2566 ททท.กำลังจับตาว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศใดบ้าง เพื่อเจาะตลาดให้คนจากประเทศเหล่านั้นเข้ามาพำนักในไทย ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่าอยู่ในประเทศตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มดิจิทัล นอแมด ที่ทำงานจากที่ใดในโลกก็ได้ รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ว่าตอนนี้ประเทศมีวีซ่าแบบใหม่ เป็นวีซ่าพำนักระยะยาว (LTR) ระยะเวลา 10 ปีเข้าออกได้หลายครั้ง จึงเป็นประเทศที่ต้อนรับชาวต่างชาติอย่างมาก