ทั่วโลกจับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่ FU.1 หลังพบเติบโต-แพร่ระบาดสูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

242
0
Share:
ทั่วโลกจับตา โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ FU.1 หลังพบเติบโต-แพร่ระบาดสูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่าจากการเก็บตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อในประเทศและข้อมูลรหัสพันธุกรรมจากฐานข้อมูลโควิดโลกหรือจีเสส (GISAID) ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา (15 เม.ย.-15 พ.ค. 2566) พบโอมิครอนสายพันธุ์หลักในประเทศไทยเป็นกลุ่ม XBB ประมาณ 93.5% ประกอบด้วยสายพันธุ์ย่อยอันดับหนึ่งคือ XBB.1.16 ประมาณ 19% อันดับสองเป็น XBB.1.5 ประมาณ 10% และอันดับสามเป็น XBB.1.9.1 ประมาณ 8.4%

ขณะที่ล่าสุด โควิด-19 ตระกูลโอมิครอนยังมีการกลายพันธุ์แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ที่เด่นชัดมี 3 กลุ่มคือ
1. โอมิครอน XBB.1.5 นามแฝงคือ คราเคน (Kraken) มาจากชื่อปลาหมึกยักษ์ในเทพนิยาย
2. โอมิครอน XBB.1.16 นามแฝงคือ อาร์คทูรัส (Arcturus) มาจากชื่อดาวฤกษ์
3. โอมิครอน XBB.1.9.1 นามแฝงคือ ไฮเปอเรี่ยน (Hyperion) มาจากชื่อเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง

อย่างไรก็ตามกลุ่มโอมิครอน XBB.1.5 ลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าจะถูกแทนที่โดย กลุ่ม XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 ที่พบระบาดมากที่สุดในอินเดีย และกระจายไปทั่วโลก

โดยสายพันธุ์ย่อยในกลุ่มโอมิครอน XBB.1.16 โดยเฉพาะ “FU.1 (XBB.1.16.1.1)” ถือได้ว่าเป็น “รุ่นหลาน” ของ XBB.1.16 พบการระบาดมากในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกได้ประสานความร่วมมือให้ช่วยกันเฝ้าติดตาม เนื่องจากมีค่าความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด สูงกว่า XBB.1.16 ถึง 50%

ขณะนี้ทั่วโลกพบโอมิครอน XBB.1.16.1.1 (T3802C) นามแฝง FU.1 จำนวน 122 ราย และพบในไทย 2 ราย ส่วนโอมิครอน XBB.1.16.1.2 (C8692T) : นามแฝง FU.2 ทั่วโลกพบ 149 ราย ประเทศไทยยังไม่พบ

ส่วนกลุ่มโอมิครอน XBB.1.16“รุ่นลูก” คือ “XBB.1.16.1” พบการแพร่ระบาดในสวีเดน โดยมีโอมิครอนกลุ่ม “XBB.1.9.1” และรุ่นลูกและรุ่นหลาน “FL” กลายพันธุ์แพร่ระบาดตามมาติดๆ คาดว่าอาจเข้ามาแทนที่กลุ่ม XBB.1.16 ในอนาคต