ทำความรู้จัก โควิด XBB.1.16  อาร์คทูรัส สายพันธุ์ย่อยใหม่จากอินเดีย หลังไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 6 ราย

346
0
Share:

โควิด XBB.1.16 หรือถูกเรียกสั้นๆ ว่า ‘อาร์คทูรัส’ กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังพบครั้งแรกในอินเดียตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า โควิดอาร์คทูรัส จะเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์หลักที่ครองโลกในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากสามารถแพร่ติดเชื้อได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอีก จากการเป็นลูกผสมไฮบริดของลูกหลานที่เป็นเครือญาติของเชื้อโอมิครอน BA.2 ที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการหลบหลีกภูมิคุ้มกันและแพร่ติดเชื้อได้เร็วขึ้นอยู่แล้ว

ขณะนี้พบคนติดเชื้อโควิด XBB.1.16 แล้วในอย่างน้อย 29 ประเทศ รวมถึงในไทย ที่ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อแล้ว 6 ราย

ก่อนหน้านี้โควิดสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 ถูกพบเป็นครั้งแรกจากการสุ่มตรวจตัวอย่างเชื้อโควิด-19 ในประเทศอินเดีย เมื่อเดือนมกราคม 2566 โดยเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 เป็นโควิดลูกผสม หรือไฮบริด ของสายพันธุ์ BA.2.10.1 กับ BA.2.75 ซึ่งโควิดสองสายพันธุ์ย่อยนี้ เป็นลูกหลานของเชื้อโอมิครอน BA.2 ฉายา ‘โอมิครอนล่องหน’ ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลกตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2565

ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่า โควิด XBB.1.16 หรืออาร์คทูรัส มีความคล้ายคลึงกับโควิด XBB.1.15 เพียงแต่มีการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น 1 ตำแหน่งที่สไปค์โปรตีน หรือโปรตีนหนามซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เชื้อไวรัสใช้ในการยึดเกาะกับเซลล์ของมนุษย์ และจากผลการศึกษาในห้องแล็บแสดงให้เห็นว่า การที่เชื้อไวรัสโควิดอาร์คทูรัสกลายพันธุ์เพิ่มขึ้น 1 ตำแหน่งที่โปรตีนหนามนี้ทำให้เกิดการติดเชื้อได้เพิ่มขึ้น และศักยภาพในการก่อโรคเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงเชื้อโควิดอาร์คทูรัส สามารถแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่าเชื้อโควิดอาร์คทูรัสจะนำไปสู่การทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงกว่าเดิม

ขณะเดียวกันจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยโตเกียวยังพบว่า เชื้อโควิด XBB.1.16 สามารถแพร่ระบาดได้เพิ่มขึ้น 1.27 เท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ XBB.1 และ XBB.1.15 จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าโควิด XBB.1.16 มีศักยภาพจะแพร่ระบาดไปทั่วโลกในอนาคตอันใกล้

สำหรับอาการหลักๆของโควิด XBB.1.16 ตามรายงานทางสถานีโทรทัศน์นิวเดลี ระบุว่า คนติดเชื้อโควิดอาร์คทูรัส อาจมีอาการหลายอย่าง เช่น เจ็บคอ คัดจมูก มีไข้ อ่อนเพลีย ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และไม่สบายท้อง ขณะเดียวกันยังพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด XBB.1.16 มีอาการเคืองตาและตาแดง ซึ่งเป็นอาการที่ไม่เคยพบมาก่อนในผู้ที่ติดเชื้อโควิดในการระบาดระลอกที่ผ่านๆ มา

แต่จากรายงานของ องค์การอนามัยโลก (WHO ) ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ว่าคนติดเชื้อโควิดอาร์คทูรัสจะมีอาการป่วยรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น หรือมีอาการป่วยหนักจนต้องเข้าห้องไอซียู หรือเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

จากรายงานขององค์การอนามัยโลกพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดอาร์คทูรัส แล้วอย่างน้อยใน 29 ประเทศ รวมทั้งสิงคโปร์ อินเดีย เนปาล สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และไทย โดยปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ยังพบคนติดเชื้อโควิดอาร์คทูรัส ประมาณ 0.21% ของจำนวนคนติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก แต่หนึ่งเดือนต่อมา เพิ่มขึ้นเป็น 3.96%

ขณะที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ (CDC) ของสหรัฐฯคาดว่ามีคนติดโควิด XBB.1.16 แล้ว 7.2% เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 15 เมษายน ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามอินเดีย ประเทศต้นตอของเชื้อโควิดอาร์คทูรัส พบว่ามีคนติดเชื้อโควิด-19 ที่แสดงอาการ รวมเป็น 44,998 รายแล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขอินเดียตรวจพบคนติดเชื้อโควิดอาร์คทูรัสเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ ที่อยู่ระดับ 21.6% มาเป็น 35.8% ในเดือนมีนาคมด้วย