ทิสโก้แนะนักลงทุนถือเงินสด

574
0
Share:

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในระยะนี้เริ่มเห็นสัญญาณหนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นบ้างแล้ว สาเหตุหลักมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง จากสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ประมาณ 3,000-4,000 คนต่อวัน ลดเหลือประมาณ 1,000 คนต่อวันในปัจจุบัน จึงนับว่าเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดหุ้นในรอบนี้
.
นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีในช่วงที่ผ่านมาก็ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกจีนในเดือนธันวาคม 2562 ที่กลับมาขยายตัวเป็นบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อีกทั้งในเดือนมกราคม 2563 ดัชนี ISM Manufacturing ของสหรัฐฯ ก็กลับมาอยู่ในระดับเกิน 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จากผลบวกกรณีที่สหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1
.
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดจะตอบรับข่าวบวกในข้างต้นและปรับตัวเป็นขาขึ้นได้ แต่ มองว่าขาขึ้นของตลาดหุ้นในรอบนี้อาจปรับขึ้นได้ในระยะสั้น เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยง 2 ประการที่อาจกลับมากดดันตลาดในช่วงไตรมาส 2 ประการแรก คือ
.
หากนายเบอร์นี แซนเดอร์ หนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมเครตได้รับความนิยมมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นได้ เพราะนโยบายของนายแซนเดอร์มักจะไปกดดันต่อผลประกอบการของภาคธุรกิจ เช่น เสนอให้ขึ้นภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา และเพิ่มภาษีจากรายได้จากการลงทุนเพื่อนำเงินไปอุดหนุนสวัสดิการสังคม เช่น บริการสุขภาพ
.
รวมไปถึงการเสนอให้มีการปฏิรูปธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่อาจเพิ่มความไม่แน่นอนต่อนโยบายการเงินได้ โดยหากในการลงคะแนนเลือกตัวแทนพรรคในวันที่ 3 มีนาคม 2563 นี้ นายแซนเดอร์ได้รับคะแนนโหวตที่ดี นักลงทุนก็มีโอกาสเทขายหุ้นในวันนั้นได้
.
ประการที่สอง คือ Fed อาจจะลดการอัดฉีดสภาพคล่อง เพราะในปัจจุบันการอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมากนั้นดูจะเริ่มมีความจำเป็นน้อยลง หลังจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินเริ่มลดลงสู่ระดับปกติตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ซึ่งเป็นเครื่องชี้ว่าปัญหาสภาพคล่องในตลาดเงินในสหรัฐฯ นั้นได้คลี่คลายลงไปแล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนโดยสภาพคล่องที่ Fed และธนาคารกลางสำคัญอื่นๆ ของโลกได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบ เห็นได้จากในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับพุ่งขึ้นพร้อมกับการกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องของ Fed ดังนั้น ตลาดหุ้นจึงกำลังจับตาท่าทีของ Fed อย่างใกล้ชิดว่าจะถอนมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องออกเมื่อใด
.
นอกจากนั้นตัวเลขเศรษฐกิจของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ของแต่ละประเทศน่าออกมาแย่ เพราะจะเริ่มได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด19 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดหุ้นอีกด้วย ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ TISCO ESU แนะนำให้นักลงทุนทยอยขายหุ้นเพื่อทำกำไร และปรับพอร์ตมาถือเงินสดเพิ่มขึ้น เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเข้ามากดดันตลาดในช่วงไตรมาส 2