ทิ้งทวน! “บิ๊กป๊อก” เสนอ ครม. เคาะขึ้นค่าน้ำประปากับประชาชนครั้งแรกในรอบ 23 ปี

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้หยิบยกเรื่องที่การประปานครหลวง (กปน.) เสนอขึ้นค่าน้ำเข้ามายังกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากที่ผ่านมาผลการดำเนินการขาดทุนมาโดยตลอด และไม่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ต่อที่ประชุม ครม. ในวันนี้

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวในที่ประชุมว่า หากรัฐบาลให้ขึ้นค่าน้ำตอนนี้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เหตุที่ กปน. มาขอในช่วงนี้เพราะเกรงว่าหากไปขอรัฐบาลใหม่จะไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ดำเนินการอะไรก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะอยู่ในหน้าที่แล้วไม่ดำเนินการ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหาทางออก อาจจะลดต้นทุนของ กปน. เช่น การขอลดราคาค่าไฟที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา หรือลดกำไรที่ส่งให้กระทรวงการคลัง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 เมษายนผ่านมา นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า กปน. ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลังการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบด้วย

1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน.ต้องเสีย 150 ล้านต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย
2. ค่าน้ำดิบจ่ายให้กับกรมชลประทานวันละ 3 ล้านบาท
3. ค่าไฟเพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟทีของรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์
4. ค่าธรรมเนียมการวางท่อเป็น 100 ล้านบาทต่อปี

สอดคล้องกับนายมงคล วัลยะเสวี รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กล่าวว่า กปภ.อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างค่าน้ำใหม่ ตามต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% ทั้งจากค่าไฟ ค่าสารเคมี เพื่อขอขึ้นค่าน้ำ หลังไม่ได้ขึ้นมากว่า 10 ปี อีก 2 เดือนจะแล้วเสร็จ จากนั้นเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะให้ปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป การปรับขึ้นค่าน้ำเคยขอกับกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่ไม่ได้รับอนุมัติ และขอให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายแทน