ทีดีอาร์ไอมองแจกเงินดิจิทัล 10,000 อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อหวั่นขึ้นภาษีในอนาคต

นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทึดีอาร์ไอ กล่าวว่า หากพิจารณานโยบายดิจิทัลวอลเล็ต คงจะมีส่วนที่ช่วยให้เศรษฐกิจไทยโตได้จริง สาเหตุจากเงินที่ใส่เข้ามาในระบบเศรษฐกิจค่อนข้างเยอะ คิดเป็นเกือบ 3% ของมูลค่าเศรษฐกิจไทย ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจในปีหน้าโตได้ถึง 5% แต่อาจเป็นการโตในระยะสั้น เนื่องจากเงินที่ใส่ลงมาใช้ได้ 6 เดือน ก็อาจจะทำให้เกิดการหมุนในเศรษฐกิจบ้าง

ส่วนใหญ่นั้น ถ้าการแจกเงินให้กับประชาชนทุกคน โดยมีเงื่อนไขว่าใช้ได้ในระยะทางที่จำกัด และในเวลาที่จำกัด อาจจะหมุนได้ไม่มาก เช่น ลงมา 1 บาท ได้ผลประมาณใกล้ๆ 1 บาท แต่ถ้าเรานำเงินนี้ไปให้คนที่มีรายได้น้อย พอได้รับเงินก็อาจจะนำเงินไปใช้เลยทันที หรืออาจจะมีการใช้หมดเลย ไม่เหมือนคนที่มีรายได้ปานกลาง หรือรายได้สูง อาจจะใช้ไม่หมด เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากให้มีตัวคูณเยอะต้องให้กับคนมีรายได้น้อย ซึ่งเงินจำนวน 10,000 บาท ก็จะได้ตัวคูณประมาณหมื่นกว่าบาท

นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก ทีดีอาร์ไอ กล่าวต่อไปว่า การให้เงินอาจจะได้ผลในระยะสั้นในเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ผลระยะต่อไปอาจะทำให้ราคาของแพงขึ้น เนื่องจากมีเงินไหลลงมาอย่างรวดเร็วในปริมาณมหาศาล เงินเฟ้อเขยิบขึ้น เมื่อเงินเฟ้อขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะมองว่าต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อที่จะไปลดความร้อนแรงความต้องการสินค้าและบริการ อาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดเงินเฟ้อลง

แน่นอนสำหรับผลในระยะยาว เงินที่มาไม่มีอะไรฟรี เป็นภาระด้านการคลัง ภาระกระเป๋าของรัฐบาล รัฐบาลอาจจะต้องมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อที่จะมาใช้หนี้ งบประมาณ 560,000 ล้านบาท ก็มีส่วนหนึ่งที่มาจากเงินกู้ ไม่ได้มาจากการตัดงบอื่นๆ ที่มาใช้ในโครงการนี้ ดังนั้น การที่รัฐบาลจะใช้หนี้จากเงินกู้ในอนาคต ก็ต้องเก็บภาษีได้มากขึ้น