ทุบ 2 สกุล! ตลาดเงินเอเชียป่วน ดอลลาร์ดิ่งใน 3 สัปดาห์ เทหยวนจีนทรุดใน 6 เดือน
วันนี้ 14 มิถุนายน 2023 ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเอเชียที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น รายงานว่า ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลสำคัญของโลก ร่วงลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 103.29 หลังจากที่คืนผ่านมาดำดิ่งลงแตะที่ระดับ 103.04 ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่ 22 พฤษภาคมผ่านมา สอดคล้องกับค่าเงินหยวนในเอเชียเข้าวันนี้ นักลงทุนเทขายต่อเนื่องจากวานนี้ ส่งผลเงินหยวนเคลื่อนไหวที่ระดับ 7.1680 ทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 6 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2022
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเงินยูโรในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ยังร่วงลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 1.08235 ต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงยังอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเปรียบเทียบกับเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษที่เคลื่อนไหวระดับ 1.2602 ต่อดอลลาร์สหรัฐ
สาเหตุที่เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงมากสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เป็นผลจากในคืนผ่านมา นักลงทุนตลาดเงินเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐทันทีที่ทราบตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมของสหรัฐอเมริกา ปรากฎว่าเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระหว่าง 5.00-5.25% เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 1 เดือน หรือตลอดระยะเวลาปรับขึ้นดอกเบี้ยมาทั้งหมด 11 ครั้งติดกัน การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในคืนวันนี้ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะประกาศผลการประชุมเวลา 02.00 น. ตามเวลาไทยโดยประมาณ
นอกจากนี้ สาเหตุที่เงินหยวนถูกเทขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เป็นผลจาก เมื่อวานนี้ 13 มิถุนายน 2023 ธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ PBOC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.10% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.9% มีผลทันที ส่งผลเป็นครั้งแรกที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นปีนี้
ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงตกอยู่ในภาวะชะลอตัว และซบเซา หลังจากในช่วงเปิดประเทศในเดือนธันวาคมเมื่อปีผ่านมาที่เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ฟื้นตัวได้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
ในเดือนพฤษภาคมผ่านมา ตัวเลขส่งออกจีนแผ่นดินใหญ่ดำดิ่งมากถึง -7.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวในปี 2022 ซึ่งภาวะส่งออกตกต่ำดังกล่าวกลับมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ตัวเลขกิจกรรมการผลิตของภาคอุตสาหกรรมหนักในเดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่าชะลอตัวลงด้วย รวมถึงอัตราการว่างงานของแรงงานวัยหนุ่มสาวกลับพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 20.4%
