ธนาคารเจพีมอร์แกนชี้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย 6-9 เดือนข้างหน้า หุ้นตกอีก 20% จากปัจจุบัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ดิมอน กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแท้จริงในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมองว่าดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะดำดิ่งแรงอีกถึง -20% จากปัจจุบัน ซึ่งขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะบริหารจัดการภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาให้ถดถอยอย่างนุ่มนวล หรือรุนแรง

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในความเป็นจริงจะมีภาวะที่ขยายตัวได้ดี และผู้บริโภคชาวอเมริกันดูเหมือนจะยังอยู่ในสถานะการใช้จ่ายบริโภคที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับในช่วงปี 2008 ซึ่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา แต่ความจำเป็นในการพูดถึงอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นสิ่งสำคัญ

ซีอีโอธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ดิมอน กล่าวต่อไปว่า สหรัฐอเมริกายังคงเผชิญภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงขึ้นเกินคาดหมาย ผลกระทบที่ไม่สามารถรู้ได้เลยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินตึงตัว และวิกฤตสงครามรัสเซียกับยูเครน

ขณะนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกากำลังวิ่งตามหลังภาวะเงินเฟ้อ เป็นผลจากธนาคารดังกล่าวปล่อยเวลานานเกินไป และลงมือแก้ปัญหาน้อยเกินไป ในขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงในระดับกว่า 40 ปีในทุกวันนี้ จากนี้เป็นต้นไป ได้แต่ความปรารถนาดีให้กับธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในความสำเร็จที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้

การคาดการณ์ หรือพยากรณ์ในอนาคตเป็นสิ่งที่ยากมาก ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเกิดถดถอยทางเทคนิคไปแล้ว แต่การถดถอยที่แท้จริงอาจมีขึ้นตั้งแต่เบาบาง ปานกลาง และรุนแรง ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยลบ โดยเฉพาะภาวะสงคราม แต่สิ่งที่มั่นใจได้เลย คือความผันผวนรุนแรงในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา จึงขอเตือนว่า จะเกิดสภาพตลาดการเงินที่ปั่นป่วนในอนาคต

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ดิมอน เคยกล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจสหคจะเผชิญกับพายุเฮอริเคนใหญ่ ซึ่งมีสาเหตุจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และภาวะสงครามรัสเซียในยูเครน