ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ชี้ผู้จัดการกองทุนเสียงแตก กว่า 26% ชี้ราคาทองสูงเกินจริง

61
0
Share:
ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ชี้ผู้จัดการกองทุนเสียงแตก กว่า 26% ชี้ ราคาทอง สูงเกินจริง อีกฝั่งชี้ไม่มีการเก็งกำไร

ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง และมีชื่อเสียงระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลสำรวจผู้จัดการกองทุน หรือ Fund Manager จำนวน 224 คน ซึ่งบริหารจัดการกองทุนรยมกันมีมูลค่ามากถึง 638,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 23.6 ล้านล้านบาท เกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อตลาดทองคำโลกในปัจจุบัน พบว่า 26% ของผู้จัดการกองทุนในผลสำรวจนี้ กล่าวว่าราคาทองคำมีการซื้อทำราคามากเกินไป นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกปัจจุบันมีการซื้อเก็บมากเกินไปในรอบ 3 ปี 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2020 เป็นต้นมา

ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองที่สะท้อนแตกต่างกัน บางรายมองว่าภาวะตลาดทองคำในปัจจุบันไม่มีการเก็งกำไร หรือการสร้างราคา เนื่องจากเมื่อตรวจสอบข้อมูลสถานะการซื้อสัญญาทองคำสุทธิยังคงพบว่ามีปริมาณธุรกรรมที่ต่ำกว่าในปี 2020 ที่มีปริมาณสถานะการซื้อสัญญาทองคำสุทธิสูงกว่าในขณะนี้ ในเวลาเดียวกัน พบว่าการลงทุนในกองทุนหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟ ยังคงไม่คึกคักถึงแม้ว่าราคาทองคำตลาดโลกจะมีราคาพุ่งสูงเป็นประวัติศาตร์หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ ผู้จัดการกองทุนเปิดเผยปัจจัยบวกที่ผลักดันราคาทองคำโลกให้มีราคาสูง ได้แก่ ภาวะหนี้ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศในหลายภูมิภาค ทั้ง 2 ปัจจัยนี้มีน้ำหนักมากกว่าต้นทุน หรือระดับดอกเบี้ยที่อยู่สูงในรอบหลายทศวรรษ

ผู้จัดการกองทุนอีกจำนวนหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์มากขึ้น โดยการถือครองเงินสดในกองทุนลดลงจากระดับ 4.4% มาอยู่ที่ 4.2% ของพอร์ตการลงทุนในภาพรวม โดยมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ลดการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ สำหรับมุมมองที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจโลกนั้น พบว่า 78% ของผู้จัดการกองทุนในผลสำรวจนี้ มองว่าดูเหมือนจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งถือว่าเป็นมุมมองในทิศทางบวกมากที่สุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2022 หรือในรอบ 2 ปี 1 เดือนกว่าผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 2 ครั้งในปี 2024 นี้ ในขณะที่มีเพียง 8% มองว่าจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในปีนี้