ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าเศรษฐกิจจีนปีนี้ต่ำ 8% คาดฉุดเศรษฐกิจทั่วโลก

แห่ทุบจีดีพีจีน! ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าเศรษฐกิจจีนปีนี้ต่ำ 8% คาดฉุดเศรษฐกิจทั่วโลก ฉุดจีดีพีเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกปีนี้
.
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 8.2% ลงมาเหลือ 7.8% สาเหตุจากปัจจัยด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้าในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ สถานการณ์ล่าสุดปรากฎว่าหลายเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่เกิดปัญหาไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง และดับสลับพื้นที่ในเมืองหลายแห่ง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายการลดใช้ถ่านหินเพื่อการผลิตไฟฟ้าตามนโยบายการลดปัญหาโลกร้อนของรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่
.
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ปัญหาไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ในขณะนี้ ส่งผลกระทบถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นฐานการผลิตสินค้าให้กับยี่ห้อของต่างประเทศ ย่อมกระทบต่อความต้องการใช้สินค้าของลูกค้าในต่างประเทศ กลายเป็นข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของต่างประเทศและของโลกในปีนี้ โดยเศรษฐกิจจีนจะเริ่มชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ติดต่อกัน ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือเพียง 4.8% จากเดิมที่ 5.1% และเหลือเพียง 3.2% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.1% ตามลำดับ
.
ด้านนายพอล กรูเอ็นวาลด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โลก บริษัท เอสแอนด์พี เรตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนชั้นนำระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงจากเดิมที่ 8.3% เหลือ 8.0% จากปัจจัยด้านนโยบายพลังงานของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่สำคัญ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในแถบเอเชีย-แปซิฟิกอย่างแน่นอน ทำให้ประกาศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกปีนี้ลงเหลือ 6.7% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 7.5% นอกจากนี้ สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยลบที่กระทบเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกอีกด้วย สอดรับกับบริษัท ฟิทช์ เรตติ้ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทจัดอันดับเรตติ้งในการลงทุนระดับโลก ประกาศลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจจีนปี 2564 ลงเหลือ 8.1% จากเดิมที่ 8.4% ซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายลดการใช้พลังงาน และวิกฤตยักษ์อสังหาริมทรัพย์ใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มบริษัทเอเวอร์แกรนด์ในจีนแผ่นดินใหญ่
.
นายติง ลู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ปรับลดตัวเลขจีดีพีจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ลงเหลือ 7.7% จากเดิมที่ 8.2% สาเหตุจากปัจจัยลบด้านการจำกัดการบริโภคพลังงานในประเทศ ซึ่งได้เริ่มส่งผลให้โรงงานจำนวนไม่น้อยปิดการผลิต หรือลดการผลิตลงอย่างมาก เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลกลางที่ต้องการลดปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้ วิกฤตยักษ์อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับ 2 เอเวอร์แกรนด์ที่มีหนี้มหาศาลกว่า 9 ล้านล้านบาท ยังไม่สามารถแก้ไขได้
.
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายนในปี 2563 ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประกาศนโยบายลดโลกร้อนด้วยการเป็นประเทศปราศจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2060 ส่งผลให้จีนเริ่มทยอยลดการใช้ทั้งทรัพยากรพลังงานที่ทำให้เกิดมลภาวะโดยเฉพาะถ่ายหินในการผลิตพลังงานไฟฟ้า การปราบปรามเหมืองขุดเงินดิจิทัลทุกแห่งในประเทศ เนื่องจากใช้พลังไฟฟ้าจำนวนมาก