ธนาคารโลกเตือนครั้งแรกใน 80 ปีที่ศก.โลกเสี่ยงถดถอย 2 ครั้งในทศวรรษ

320
0
Share:

ธนาคารโลก หรือ World Bank เปิดเผยรายงานภาวะและมุมมองเศรษฐกิจโลกปี 2023 พบว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลขจีดีพีโลกปี 2023 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.7% ไม่เพียงทำสถิติขยายตัวแต่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1992 โดยไม่นับในปี 2009 และปี 2020 แต่ยังเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกปี 2023 จะเกิดถดถอยเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 1 ทศวรรษ ซึ่งไม่เคยเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession ถึง 2 ครั้งภายใน 1 รอบทศวรรษมาก่อนในรอบ 80 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1930 เป็นต้นมา

ธนาคารโลก เปิดเผยต่อไปว่า การปรับลดตัวเลขจีดีพีในปีนี้ลงมาเหลือเพียง 1.7% นับเป็นการปรับลดลงเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2022 ลดเป้าจีดีพีโลกปี 2023 มาเหลือที่ระดับ 3.0%

ในขณะที่ ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2024 จะขยายตัวที่ระดับ 2.7% แต่ยังคงเป็นตัวเลขจีดีพีที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของปี 2022 ที่ระดับ 2.9% และเมื่อรวมอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 5 ปีติดต่อกันคือระหว่าง 2020-2024 พบว่าเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยต่ำกว่า 2% ซึ่งทำสถิติการขยายตัวเฉลี่ย 5 ปีติดต่อกันต่ำสุดในรอบ 62 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมา

สาเหตุจากเศรษฐกิจโลกในปีนี้เผชิญกับปัจจัยลบที่รุนแรง ได้แก่ ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในระดับสูงของธนาคารกลางสำคัญของโลก ภาวะสงครามรัสเซียกับยูเครนที่มีต่อเนื่อง และประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอันดับตันๆของโลกตกอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องและถดถอย

ธนาคารโลกได้ปรับลดภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยูโรทั้ง 20 ประเทศสมาชิกยูโรในปีนี้ลงมาเหลือเพียง 0.5% นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่ทั้ง 2 เขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ภายในไม่ถึง 3 ปีผ่านมา

รายงานธนาคารโลกระบุเพิ่มเติมว่า ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางนั้น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอะไรก็ตามที่พัฒนาขึ้นมา เช่น อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดหมาย การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างทันทีทันใดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อระดับสูง กรรกลับมาระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 หรือความขัดแย้งอย่างรุนแรงของสถานการณ์สงครามหรือการเมืองระหว่างประเทศ ทั้งหมดจะฉุดให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนา และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ที่มีภาระหนี้สินพุ่งสูงในปัจจุบัน ค่าเงินในประเทศเหล่านี้ที่อ่อนค่าลง การเติบโตของรายได้ที่ลดลง และการลงทุนทางธุรกิจที่ลดลง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในช่วงเวลา 2 ปีข้างหน้านี้ จะมีการขยายตัวเศรษฐกิจใน 2 กลุ่มประเทศดังกล่าวเพียง 3.5% ทำสถิติขยายตัวต่ำสุดต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของการขยายตัวทางเศรษฐกิจใน 20 ปีผ่านมา

ประธานธนาคารโลก นายเดวิด มัลพาส กล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง รวมถึงการลงทุนทางธุรกิจที่ลดลง จะกลายไปเป็นปัจจัยลบที่ซ้ำเติมภาวะการศึกษา สาธารณสุข ความยากจน และโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงภาวะโลกร้อนที่จะเป็นปัญหาซ้ำเติมในระยะยาว

สำหรับเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าในปี 2023 จะขยายตัวที่ระดับ 4.3% แต่ยังคงต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิถุนายนในปีผ่านมาที่ระดับ 5.2% หรือลดลงถึง -0.9% ในปีผ่านไป เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างรุนแรงโดยมีตัวเลขจีดีพีขยายตัวที่ระดับ 2.7% ทำสถิติเศรษฐกิจจีนเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 47 ปี หรือนับตั้งแต่กลางยุคทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา สาเหตุจากนโยบายไม่อยู่ร่วมโรคระบาดโควิด-19 วิกฤตหนี้อสังหาริมทรัพย์ วิกฤตภัยแล้งที่ฉุดการบริโภค การลงทุน และการผลิตในประเทศอย่างรุนแรง