ธนาคารในจีนส่อเสียหายหนักจากหนี้อสังหาฯ กว่า 13 ล้านล้านบาท ปล่อยกู้เกินเพดาน

514
0
Share:

เอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งส์ เปิดเผยว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด จะพบว่าเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ในระบบธนาคารของจีนแผ่นดินใหญ่อาจเสียหายมากมายพุ่งสูงถึง 2.4 ล้านล้านหยวน หรือ 356,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 6.4% ของมูลค่าการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของระบบธนาคารในจีนแผ่นดินใหญ่ สอดคล้องกับธนาคารดอยช์ แบงก์ เอจี จากเยอรมนี กล่าวเตือนว่าอย่างน้อย 7% ของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นใหญ่กำลังเผชิญภาวะอันตราย

ข้อมูลถึงปัจจุบัน พบว่า ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่รายงานหนี้เสียของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ถึง 2,100 ล้านหยวน หรือกว่า 10,500 ล้านบาท

ธนาคารพีเพิล แบงค์ ออฟ ไชน่า เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินกู้อสังหาริมทรัพย์ของธนาคารที่มีต่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่มีมูลค่าสูงสุดมากกว่าสินเชื่อที่ให้กับภาคอุตสาหกรรม หรือภาคธุรกิจอื่นๆ พบว่า ปัจจุบันมูลค่าสินเชื่อคงค้างสูงถึง 39 ล้านล้านหยวน หรือ 195 ล้านล้านบาท และมีอีก 13 ล้านล้านหยวน หรือราว 65 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ในจีนแผ่นดินใหญ่มี 2 แห่งที่มีสัดส่วนการปล่อยเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ต่อมูลค่าสินเชื่อทั้งหมดที่สูงเกินกว่าเพดานกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารพีเอสบีซี และธนาคารซีซีบีที่แห่งละ 34% ในขณะที่เพดานกำหนดสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 32.5%

สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ในปีนี้ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 มีอัตราการขยายตัว หรือจีดีพีต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี และเป็นไปได้สูงมากที่จะไม่ขยายตัวถึง 5% ในปีนี้ตามเป้าหมายของรัฐบาล การใช้นโยบายไม่อยู่ร่วมกับโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการสะดุดหยุดลงของภาคการผลิตอุตสาหกรรมทั้งของจีนและของต่างชาติ

ภาวะหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้นทำสถิติมกเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในปีนี้ โดยในขณะนี้สัดส่วนดังกล่าวในภาพรวมอยู่ที่สูงกว่า 270% ต่อจีดีพี ประกอบด้วยหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอยู่ที่ 150% ต่อจีดีพี หนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 70% ของจีดีพี และหนี้รัฐบาลอยู่ที่เกือบ 50% ของจีดีพี ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวจีนลังเลใจ และชะลอการกู้ยืมเงิน นอกจากนี้ รายได้ส่วนบุคคลของชาวจีนลดลง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการจ่ายคืนค่างวดและหนี้สินอสังหาริมทรัพย์

เอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้งส์ เปิดเผยต่อไปว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้จะตกต่ำอย่างรุนแรงถึง 33% ท่ามกลางปัจจัยลบในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของฝั่งผู้ซื้อที่มีการประท้วงในช่วงที่ผ่านมาและยังคงไม่มีสัญญาณว่าจะยุติลงแต่อย่างใด ส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ราว 28 จาก 100 แห่ง ต้องเข้าสู่ภาวะชักดาบ หรือไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้คืนให้กับนักลงทุนได้ หรือต้องเลือกที่จะเจรจาต่ออายุหุ้นกู้พร้อมปรับโครงสร้างผลตอบแทนออกไป

นอกจากนี้ การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านไป ตกต่ำมากถึง 9.4% การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์คิดเป็น 20% ของจีดีพีประเทศในภาพรวม