ธนาคารไทยพาณิชย์เปลี่ยนแปลงธุรกิจครั้งใหญ่ สู่ SCBX คาดมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1 ล้านล้านใน 5 ปี

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ว่า ธนาคาร SCB จะไม่ใช่ธนาคารแบบเดิมอีกต่อไป แต่จะเป็นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินที่มีธุรกิจธนาคารเป็นส่วนหนึ่ง และแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม และจะขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินส่วนบุคคลที่มีการเติบโตสูงที่ธนาคารไม่สามารถตอบสนองได้ โดยแต่ละธุรกิจ SCB จะร่วมมือกับพันธมิตรระดับประเทศ และระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง ที่จะเริ่มเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้

SCB จะไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจธนาคารอีกต่อไป แต่ต้องขยายเข้าสู่ธุรกิจการเงินประเภทอื่นๆ ที่ตลาดต้องการ สร้างขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีที่มีขนาดใหญ่ให้ทัดเทียมกับคู่แข่งระดับโลก เพื่อเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อที่จะอยู่รอดปลอดภัยในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเป็นผู้สร้างและบริหารจัดการแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีขนาดใหญ่ นำร่องด้วย Robinhood Food Delivery ซึ่งเป็นโครงการแรก เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มระดับโลก และได้สร้างขีดความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยี เริ่มจากการก่อตั้งบริษัท SCB Tech X และบริษัท Data X ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อสร้างขีดความสามารถพื้นฐานด้านเทคโนโลยีภายในที่จะสามารถสร้างและ scale platform ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

SCB จะขยายเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset business) ในระดับโลกเพื่อเข้าสู่โลกการเงินแห่งอนาคตผ่าน SCB 10X และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) โดยการร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรกองทุนระดับโลก และการพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้านต่างๆ ใน business model ใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มในระยะยาว

ดังนั้น การแถลงในครั้งนี้ คือการจัดตั้งยานแม่หรือจะเรียกว่าบริษัทแม่ขึ้นมาแทนธนาคาร SCB โดยใช้ชื่อบริษัทใหม่นี้ว่า SCBX (เอสซีบี เอกซ์) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและขีดความสามารถในการแข่งขัน มุ่งสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาค ภายใต้ SCBX จะเน้นการเติบโตอย่างเต็มที่ ไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของการเป็นธนาคาร จะทำให้ธนาคารมีความมั่นคง มีโครงสร้างการทำงาน ต้นทุน ที่แข็งแกร่ง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงต่อไปว่า บริษัท SCBX ในฐานะบริษัทแม่นั้น จะมีธุรกิจ Cash Cow คือ ธนาคาร SCB และมีธุรกิจอื่นๆ เป็น การเติบโตใหม่ หรือ New Growth ด้วยเป้าหมายคือ การเพิ่มลูกค้าจาก 16 ล้านรายในประเทศไทย เป็นกว่า 200 ล้านรายทั่วภูมิภาค กำหนดเป้าหมายหลักเบื้องต้น คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ พร้อมกับการมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจใหม่ การจัดการ Capital Management การทำ Data Integration จากบริษัทในกลุ่มทั้งหมด และบริหารการทำงานของกลุ่มร่วมกัน

รูปธรรมที่จะเห็นได้ชัดเจน คือ จะเกิดการร่วมทุนระหว่าง SCBX กับพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาถึง 15 บริษัท ด้วยกลุ่มบริษัทธุรกิจในเครือทั้งหมด เช่น บริษัท AISCB ที่ทำธุรกิจด้าน Digital Lending และ Financial Product อื่นๆ บริษัท Alpha X จากการร่วมกับกลุ่ม Millennium Group Corporation หรือ Auto X ที่เน้นด้าน Loan Business เป็นต้น ที่สำคัญทั้งหมดไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของธนาคารอีกต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการของธนาคาร SCB ได้อนุมัติในหลักการดังกล่าวทั้งหมดแล้ว เพื่อเสนอจัดตั้งบริษัทแม่ SCBX เป็นบริษัทใหม่ ที่ไม่ใช่ธนาคาร และบริษัท SCBX จะถือหุ้นในธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคาร SCB อย่างไรก็ตาม ประเด็นในการประชุมบอร์ดต้องเสนอขออนุมัติอย่างเป็นทางการจากผู้ถือหุ้นและธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้ง

สำหรับรายละเอียดนอกจากตั้งบริษัทแม่ จะมีการขอทำ Share Swap เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของธนาคาร กลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ หากอนุมัติจะส่งผลให้ผู้ถือหุ้นของธนาคารกลายเป็นผู้ถือหุ้นของ SCBX และจะนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับนำ SCB ออกจากตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงโอนหุ้นในหลายๆ บริษัท เช่น SCB 10X, SCB Securities

นอกจากนี้ ได้เสนอให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เป็นกรณีพิเศษ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท โดยกว่า 70% จะใช้ในการตั้งบริษัทใหม่ โอนธุรกิจและลงทุนต่อเนื่อง และจะมีการขออนุมัติให้โอนธุรกิจที่เป็นบัตรเครดิต และ Personal Loan ไปบริษัท Card X ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ที่จะตั้งขึ้นเพื่อดูแลธุรกิจด้านนี้