ธปท.เผย 3 เดือนช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยได้ 11.5 ล้านบัญชี

585
0
Share:

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ว่า จากการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่า มีลูกหนี้รายย่อยได้รับความช่วยเหลือ 11.5 ล้านบัญชี จากบัญชีสินเชื่อรายย่อยทั้งหมด 35 ล้านบัญชี
.
ส่วนใหญ่เป็นบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คิดเป็นมูลหนี้รวม 3.8 ล้านล้านบาท ซึ่งพบว่าลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือในลักษณะจ่ายเงินค่างวดที่ลดลง และบางส่วนได้รับการเลื่อนการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการทางการเงินจำนวนมากยังให้ความช่วยเหลือมากกว่ามาตรการขั้นต่ำที่ ธปท. กำหนด ตามกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ
.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ยังมีความไม่แน่นอนสูง และยังคงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและอาจยืดเยื้อ ทำให้ลูกหนี้บางกลุ่มยังต้องการความช่วยเหลือต่อเนื่อง
.
ดังนั้น ธปท. จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 ซึ่งเป็นมาตรการที่ให้ประชาชนเลือกที่จะเข้าร่วม โดยผู้ให้บริการทางการเงินจะต้องจัดให้มีทางเลือกของความช่วยเหลือให้กับลูกหนี้แต่ละกลุ่มเพื่อสามารถเลือกให้เหมาะกับกระแสรายได้ที่เปลี่ยนไปมากที่สุด
.
นอกจากนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน และให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง ธปท. ยังได้ปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต จาก 18% เหลือ 16% สินเชื่อส่วนบุคคล จาก 28% เหลือ 25% และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จาก 28% เหลือ 24% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 63 เป็นต้นไป