ธอส.แนะรัฐอุ้มกลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. และ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในปี 2563 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะยังคงมีปัจจัยเสี่ยง ผู้ประกอบการต้องเลือกกลุ่มลูกค้าให้ชัด ด้านกำลังซื้อ ยังต้องติดตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ การพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน ที่อาจจะต้องมีการผ่อนปรนเงื่อนไขมากขึ้น เช่น ลูกหนี้บัตรเครดิตที่ไม่สามารถกู้ได้ใน 3 ปี
.
ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพิจารณาให้ตอบโจทย์ศักยภาพผู้ซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ที่มีกำลังซื้อเยอะ สะท้อนจากยอดการโอนเพิ่มขึ้นจาก 3,000 ยูนิต เป็น 16,000 ยูนิต ดังนั้นนโยบายรัฐบาลจะต้องเข้ามามีส่วนช่วย เพราะตลาดบนๆ เริ่มมีแนวโน้มอิ่มตัว
.
ส่วนต้นทุนเรื่องค่าที่ดินจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ผู้ประกอบการเลือกตลาดบ้านที่ราคาต่ำลงได้ ขณะที่โครงการบ้านดีมีดาวน์ จะเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนผู้ซื้อบ้านเท่านั้น มาตรการที่มีผลจริงคือ การลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% ถึงสิ้นปี 2563 ซึ่งปัจจุบันยังครอบคลุมถึงบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50% ของราคาบ้านในตลาด ถ้าขยายเป็น 3-5 ล้านบาทด้วยได้ ก็จะครอบคลุมบ้านในตลาดให้ได้ประโยชน์เพิ่มอีก 30%
.
ขณะที่ผลจากมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. ยังไม่ส่งผลให้ผู้ประกอบการลดราคาที่อยู่อาศัย ตามเป้าหมายมาตรการ ของ ธปท. แต่อาจจะมีในส่วนของการจัดโปรโมชั่น การให้ส่วนลดอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมราคาที่อยู่อาศัยใหม่ จะยังราคาไม่เพิ่ม ผู้ประกอบการจะเริ่มปรับตัว มาในตลาดบ้านราคาต่ำมากขึ้น ซึ่งจากการ หารือกับ ธปท. เชื่อว่าจะยังไม่ยกเลิกมาตรการLTV แต่อาจจะมีเงื่อนไขผ่อนปรน หรือ ยกเลิกมาตรการในบางพื้นที่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ธปท.