นักท่องเที่ยวจีนวูบเกือบ 30% กังวลความปลอดภัยเหตุการณ์พารากอน หมดช่วง Golden Week

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินเบื้องต้นพบว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่ลดลงถึง 29.47% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า (WoW) ซึ่งมีจำนวน 106,472 คน โดยลดลงมาเหลือเพียง 75,093 คนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนบางส่วน ออกเดินทางตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้าในช่วง Golden Week เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด และความกังวลต่อความปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอน ประกอบกับการสิ้นสุดช่วงวันหยุดต่อเนื่อง และการเปิดภาคเรียนในภูมิภาคอาเซียน ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และภูมิภาคโอเชียเนีย

ซึ่งส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา (2-8 ต.ค. 66) ในภาพรวมไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 497,966 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 54,453 คน คิดเป็น 9.86% (WoW) (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ต.ค. 66) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทย เฉลี่ยวันละ 71,138 คน โดย 5 อันดับแรก ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว ตามลำดับ

ทั้งนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในสัปดาห์นี้ (9-15 ต.ค.) จะมีการปรับตัวลดลงในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียตะวันออก และภูมิภาคโอเชียเนีย นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศยังกังวลต่อสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ปะทะรุนแรง คาดว่าในสัปดาห์นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 480,000 คน

“สัปดาห์นี้ คาดว่านักท่องเที่ยวจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลด้านความปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอน และการเข้าสู่ภาวะสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส นอกจากนั้น การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ และในประเทศ ยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากราคาต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเหตุการณ์สู้รบ และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว” น.ส.สุดาวรรณ ระบุ

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 20,549,501 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 861,845 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 มาเลเซีย 3,357,054 คน รองลงมา คือ จีน 2,584,791 คน เกาหลีใต้ 1,228,505 คน อินเดีย 1,199,955 คน และรัสเซีย 1,016,018 คน ตามลำดับ