นักลงทุนกลับเข้าตลาดหุ้นคึกคัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งเฉียด 160 จุด

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 26,840 จุด +159 จุด หรือ +0.60% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,257 จุด +5 จุด หรือ +0.17% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,680 จุด -86 จุด หรือ -0.81% สาเหตุจากผลประกอบการของหุ้นกลุ่มพลังงาน และราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่พุ่งสูงรอบ 4 เดือน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าลงทุนคึกคัก ขณะที่มีการเทขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยีเกิดขึ้น

.

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 41.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.15 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.82% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 44.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.37 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ +3.17% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบสูงสุดรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา สาเหตุกลุ่มอียูผ่านกฎหมายจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นกองทุนที่มีมูลค่ามากเป็นประวัติการณ์ และความหวังที่มีต่อผลการทดสอบวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบาดโควิด-19

.

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,843,90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +26.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.5% ทำสถิติราคาทองคำรายวันพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนึ้ ส่งผลให้มีราคาทองคำโลกกลับขึ้นมาใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าลง อียูผ่านกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่ามากที่สุดครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ ราคาทองคำโลกยังคงห่างจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,920.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเกิดขึ้นในกันยายน ปี 2011